ชี้อสังหาปีนี้โตต่ำ5% เซ็นจูรี่ระบุแบงก์เข้มปล่อยกู้ จับตาเงินไหลออกเบรกลงทุนในไทย
เซ็นจูรี่ 21ฯ มองภาพรวม อสังหาฯ ปีนี้ส่อโตน้อย เหตุแบงก์เข้มปล่อยกู้กระทบกำลังซื้อคอนโดต่ำกว่า 3 ล้าน ขณะที่ดอกเบี้ยสหรัฐสูงป่วนลงทุนไทย
นายธิติวัฒน์ ธีรกุลธัญโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า จากภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีแรกปี 2561 คาดว่าปีนี้จะตลาดรวมโตไม่ถึง 5% จากที่มีการคาดการณ์ไว้ว่าจะโตอยู่ที่ 5-10%
ทั้งนี้ สะท้อนได้จากข้อมูลผ่าน แพลต ฟอร์มของบริษัทที่พบว่า การซื้อ- ขายอสังหาฯ ไม่ได้มีการเติบโตมากนักเพราะสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อจริง ซึ่งเป็นกลุ่มระดับกลางและล่างทำให้ ความสนใจซื้ออาจชะลอออกไป
ขณะที่เศรษฐกิจนอกประเทศ เช่น อเมริกา จีน ยังไม่มีความชัดเจน ทำให้เกิดการไหลของเงินไปสู่ประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง แม้อสังหาฯ ในไทยยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนของต่างชาติเพราะ มองว่าให้ผลตอบแทนการลงทุนสูงก็ตาม
นอกจากนี้ คอนโดที่ขายให้กับลูกค้าต่างชาติในสัดส่วน 49% ยังมียอดขายที่ดี แต่ดีเวลอปเปอร์และตัวแทนขายต้องคำนึงถึงอีก 51% ที่เหลือสำหรับขายในประเทศไทยด้วยโดยเฉพาะคอนโดระดับกลางกลุ่ม 3 ล้านบาทซึ่งตลาดยังไม่ดีนัก เพราะยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือน ยอดปฏิเสธสินเชื่อสูง ดังนั้นต้องตีโจทย์ให้แตกเพื่อให้สัดส่วนผู้ซื้อในประเทศเพิ่มขึ้น
สำหรับทิศทางของบริษัทนั้นได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรับรองการเปลี่ยนในยุคดิจิทัล มุ่งเน้นในสิ่งที่บริษัทชำนาญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การทำการซื้อขาย และเป็นที่ปรึกษาเรื่องที่ดินเพื่อการลงทุน ทั้งนี้บริษัทนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น โดยได้มีการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม พัฒนาเว็บไซต์ใหม่ และระบบแบ็กออฟฟิศต่างๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มดาต้าข้อมูล รองรับการทำงานกับเครือข่ายทั่วโลกที่มีอยู่กว่า 80 ประเทศ 8,000 ออฟฟิศ ขณะที่ประเทศไทยมีแฟรนไชส์สาขาทั้งสิ้น 30 ราย คาดว่าเฟสแรกจะเสร็จในเดือน ส.ค.นี้
ทั้งนี้ ยังได้ลงทุนราว 5 ล้านบาท ปรับปรุงสำนักงานใหญ่จัดทำเป็นโค-เวิร์ก กิ้งสปาร์ค (Co-Working Spark) ซึ่งจะเป็นพื้นที่ให้เอเย่นต์และคนทำงานในเครือข่ายสามารถมาใช้ทำงานคาดว่าจะเสร็จเดือน ก.ย.นี้ นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งศูนย์วิจัย ข้อมูลอสังหาฯภายใต้ชื่อ C21 Poll เพื่อ นำเสนอมุมมองต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาฯ โดยเป็นการนำเสนอในเชิงการทำนโยบายภาครัฐ ยุทธศาสตร์ชาติด้านที่อยู่อาศัย และการวิจัยตลาด 5 โซนทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการและ ผู้บริโภค ซึ่งโพลชิ้นแรกจะเสร็จเดือน ส.ค.นี้
นายธิติวัฒน์ กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทในครึ่งปีแรกต่ำกว่าเป้า 20-30% โดยสัดส่วนรายหลักยังเป็นให้เรื่องที่ดินเพื่อการลงทุน 40% การบริหารอาคาร 60 โครงการสัดส่วน 20% ที่เหลือจากการซื้อ-ขายผ่านสาขาแฟรนไชส์
ด้านการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของสถาบันการเงินที่ผ่านมา เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2561 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้มากกว่า 1.05 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 53.67% จำนวน 8.52 หมื่นบัญชี โดยในจำนวนนี้เป็นผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง วงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท 5.14 หมื่นบัญชี ดันยอดสินเชื่อคงค้างรวมแตะที่ 1.07 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.62% คาดว่าภายในปี 2561 จะสามารถปล่อยสินเชื่อปล่อยใหม่ได้ตามเป้า 1.89 แสนล้านบาท และนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การก่อตั้งธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อทะลุเกิน 1 แสนล้านบาท ภายใน 6 เดือนแรก เพราะเศรษฐกิจรวมขยายตัว ธนาคารออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในทุกระดับรายได้