ซีคอนโฮมปรับทัพ บุกหนักรับสร้างบ้าน
อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร
ซีคอนโฮมปรับสู้ศึก
แม่ทัพใหม่เปิด 2 กลยุทธ์สร้างการเติบโตรับยุคดิจิทัล ชิงส่วนแบ่งเซ็กเมนต์บ้าน 5-20 ล้าน ตั้งเป้าปีนี้โต 8-9%
ถือว่าเป็นการปรับทัพครั้งสำคัญของบริษัท ซีคอนโฮม ในการรุกธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ ผู้บริโภคในยุคดิจิทัล โดยล่าสุดได้แต่งตั้ง "มนู ตระกูลวัฒนะกิจ" ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท โดยเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ที่คว่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 30 ปี กับหลายค่ายบิ๊กเนมจะทำให้ทิศทางซีคอนโฮม พี่ใหญ่ในวงธุรกิจสร้างบ้านที่มีผลงานกว่า 57 ปีจากนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง
มนู เปิดเผยว่า การเข้ามาบริหารงานที่นี่ก็เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจในทุกด้าน ซึ่งซีคอนโฮมเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคและมีการบอกต่อ ทั้งนี้ ได้วาง 2 นโยบายในการดำเนินงานเบื้องต้น ได้แก่ การนำบริษัทออกจากการแข่งขันด้านสงครามราคา และการออกแบบบ้านใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในราคาต้นทุนตามจริง
ทั้งนี้ จะดำเนินการควบคู่กับการให้บริการหลังการขายนอกเหนือจากจุดเด่นในเรื่องของระบบซีคอน ซึ่งเป็นระบบการก่อสร้างลิขสิทธิ์เฉพาะของบริษัท ตั้งเป้าใน 1-2 ปีนี้จะมีความชัดเจน รวมถึงการเน้นการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง สำหรับแบรนด์หลักคือ ซีคอนโฮม โดยจะรุกเจาะกลุ่มเป้าหมายเซ็กเมนต์ 5-20 ล้านบาท เพราะเป็นตลาดกลางและบนที่กำลังซื้อที่ดี ซึ่งจะผลักดันให้บริษัทมีผลการดำเนินการที่ดีต่อเนื่อง
การดำเนินธุรกิจไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรมใด หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจอยู่ที่การเข้าใจลูกค้า ล่าสุด บริษัทได้ออกแบบ 4 แบบบ้านใหม่ระดับราคา 5-18 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ Next Series เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนทุกวัยสอดคล้องกับการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและยุคที่คนสูงวัยครองเมือง ซึ่งจะเปิดตัวในงานบ้านและสวนในวันที่ 4-12 ส.ค.นี้ ณ ไบเทค บางนา
นอกจากนี้ จะเพิ่มอีก 12 แบบบ้านใหม่ในงานมหกรรมรับสร้างบ้านและวัสดุวันที่ 16-19 ส.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จากปัจจุบันมีกว่า 200 แบบ ซึ่งจะมีการนำมาเลือกให้เหมาะสมกับช่วงเวลา
"บริษัทได้ลงทุนปรับปรุงศูนย์รับสร้างบ้านที่ศรีนครินทร์ โดยใช้งบราว 6-7 ล้านบาท สร้างบ้านตัวอย่างเพื่อให้ลูกค้าได้เห็นโครงสร้างและระบบการก่อสร้างที่เป็นจุดแข็งของบริษัทคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ในต่างจังหวัดที่ใกล้เคียงกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปัจจุบันบริษัทมีศูนย์รับสร้างบ้านจำนวน 5 ศูนย์" มนู กล่าว
ขณะเดียวกัน ได้ออกแคมเปญสร้างบ้านไม่ต้องควักเงินสักบาทกับซีคอนโฮม เพื่อตอบรับกระแสความต้องการสร้างบ้านหลังใหม่ของผู้บริโภคที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคนอยากสร้างบ้านแต่ไม่มีเงินก้อนให้สามารถเป็นเจ้าของบ้านในฝันที่มีคุณภาพมาตรฐานได้ในทุกราคาตั้งแต่ 2-30 ล้านบาท ด้วยข้อเสนอพิเศษวงเงินกู้สูงสุด 100% จาก 4 สถาบันการเงินหลักคือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารยูโอบี คาดว่า สิ้นปีนี้จะมีการเติบโตประมาณ 8-9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ด้าน ศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กรรมการบริษัท บริษัท ซีคอนโฮม กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในครึ่งปีแรกปี 2561 พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงมีความต้องการสร้างบ้านที่อยู่อาศัยหลังแรกและมีเหตุผลในการตัดสินใจใช้จ่ายเงินตามความจำเป็น
ในส่วนของครึ่งปีหลังคาดการณ์ว่า น่าจะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นเพราะเป็นฤดูกาลของการจองปลูกสร้างบ้าน ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาดที่ครึ่งปีหลังมักจะมีการเติบโตกว่าครึ่งปีแรก โดยในส่วนของบริษัทเติบโตในครึ่งปีหลังเฉลี่ยที่ 15-20% แม้ว่าเศรษฐกิจในครึ่งปีแรก ผู้บริโภคจะใช้จ่ายเงินด้วยความระมัดระวัง
ที่ผ่านมาบริษัทมีการปรับกลยุทธ์มาเน้นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยหันมาใช้นวัตกรรมในการพัฒนาบ้าน เพื่อแข่งขันด้านคุณภาพมากกว่าการแข่งขันเรื่องราคา รวมทั้งจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบสำเร็จรูปมาใช้ในงานก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมาได้พัฒนาบันไดสำเร็จรูปออกมาใช้และอยู่ระหว่างพัฒนาห้องน้ำสำเร็จรูป
อย่างไรก็ดี จากการสำรวจตลาดในปัจจุบัน พบว่า กลุ่มลูกค้ามีความต้องการบ้านที่ชัดเจนด้านฟังก์ชั่นการใช้งานมากกว่าในอดีต และที่สำคัญต้องทำการบ้านที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะกลุ่มมากขึ้น ผู้บริโภคมีอายุน้อยลงคือ 30 ปีขึ้นไป โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ แบบบ้านประหยัดพลังงานที่สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติ แบบบ้านเพื่อผู้สูงอายุ และแบบบ้านที่รองรับฟังก์ชั่นทางธุรกิจควบคู่กับการอยู่อาศัย
สำหรับซีคอนโฮมได้มีการเปิดตัวแบบบ้านแทนคุณ เพื่อรองรับความต้องการของผู้สูงอายุ ส่วนคอมแพ็กโฮมได้พัฒนาบ้านภายใต้กลุ่มบ้านตระกูลรัก เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึงบัดเจ็ตโฮมที่เปิดตัวบ้านคุ้มค่าที่เน้นฟังก์ชั่นในราคาสุดคุ้ม ทั้งนี้ กลุ่มบ้านเหล่านี้ได้รับการตอบรับที่ดี นอกจากนี้ยังพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเทรนด์บ้านก็เปลี่ยน
"ครึ่งปีแรกบริษัททำยอดขายได้แล้ว 660 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ 1,300 ล้านบาท ซึ่งการเข้ามาบริหารงานของมนูจะทำให้บริษัทมีการพัฒนาสินค้าให้มีความทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอีกทั้งสามารถก้าวทันกระแสโลกและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว" ศุภิชชา กล่าวปิดท้าย