SCบุกมะกันยึด'บอสตัน'ซื้อตึกให้เช่า
Loading

SCบุกมะกันยึด'บอสตัน'ซื้อตึกให้เช่า

วันที่ : 22 กรกฎาคม 2561
SCบุกมะกันยึด'บอสตัน'ซื้อตึกให้เช่า

ครึ่งปีหลังผุด15โครงการ1.6หมื่นล.

เอสซี แอสเสท กระจายการลงทุน รุกธุรกิจอพาร์ตเมนต์ในอเมริกา ซุ่มเจรจาซื้อตึกที่บอสตัน พร้อมตั้งบริษัทลูก เอสซี อัลฟ่า ในไทยเปิดเอสซี แอสเสท ทู รอร่วมทุนพันธมิตร เผยอสังหาฯไทยตลาดหนาแน่น หวังเมกะโปรเจ็กต์อีอีซีเกิดสร้างชุมชนใหม่

ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเนื้อหอม ทุนต่างชาติโดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่นไหลเข้าจับคู่บริษัทของไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น บิ๊กดีเวลอปเปอร์ซึ่งเป็นผู้นำตลาดบ้านหรู วางแผนขยายฐานตลาดไปต่างประเทศโดยเล็งเป้าบุกประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SC) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ของไทยยังมีอัตราเติบโตที่ดี และจีดีพีของประเทศก็ดีเช่นกัน แต่วันนี้ความหนาแน่นในพื้นที่กรุงเทพมหานครค่อนข้างสูง ถ้าโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และโครงการการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เกิดเร็ว ก็จะช่วยทำให้เมืองโตออกไปได้ ระหว่างรอการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น บริษัทวางแผนกระจายการลงทุนให้หลากหลายขึ้น โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้จัดตั้งบริษัทย่อยคือ บริษัท เอสซี อัลฟ่า อิงค์ฯ ที่เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐ อเมริกา มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

เพราะจากการศึกษาขนาดเศรษฐกิจของโลกพบว่า สหรัฐ อเมริกาเป็นตลาดที่น่าสนใจ เศรษฐกิจเลยจุดต่ำสุดมาแล้ว เริ่มฟื้นตัวขึ้นซึ่งสะท้อนจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ปัจจัยที่ผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาให้เติบโตก็คือ อุตสาหกรรมเทคโนโลยี ส่งผลต่อการจ้างงานในธุรกิจนี้จะเพิ่มขึ้นและความต้องการที่พักอาศัยก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทางเอสซีจะเข้าไปลงทุนอสังหาริม ทรัพย์แบบเช่า โดยซื้ออาคารในเมืองบอสตันมาปรับเป็นอพาร์ต เมนต์ ซึ่งตลาดอเมริกาอัตราการเช่าแทบทุกตึก 90% ขึ้น ขณะนี้อยู่ในช่วงการพิจารณาดีล

นอกจากนี้ได้จดทะเบียนบริษัทลูกอีกบริษัทชื่อ เอสซี แอสเสท ทู มีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สำหรับบริษัทใหม่นี้เปิดขึ้นมาเพื่อร่วมทุนกับพันธมิตร เพราะวันนี้การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีหลายกลยุทธ์ ในเชิงของการหาแหล่งทุน, การหาพันธมิตร จึงเปิดเตรียมไว้ก่อน

"วันนี้ขนาดธุรกิจของบริษัทใหญ่ขึ้นระดับหนึ่ง เม็ดเงินที่ลงทุกเม็ดก็จะไม่ใส่ลงตะกร้าเดียวอีก ต้องกระจายธุรกิจ ถึงแม้ตลาดในประเทศมีสินค้าหลายตัวที่เราทำได้ดีอยู่แล้ว แต่ก็ต้องมองทางเลือกเผื่อไว้"

สำหรับแผนรุกตลาดช่วงครึ่งหลังปี 2561 เอสซีวางแผนเปิดโครงการแนวราบอีก 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.6 หมื่นล้านบาท มองว่าในภาพรวมตลาดแนวราบปีนี้ค่อนข้างดีทุกเซ็กเมนต์ สำหรับกลยุทธ์การรุกตลาดของเอสซี แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือ ระดับราคา 8 ล้านบาทขึ้นไป กับราคา 8 ล้านบาทลงมา ที่ผ่านมาตลาดกลุ่มราคา 8 ล้านบาทขึ้นไปคือตลาดหลักที่สร้างการเติบโตให้กับบริษัท แต่นับจากนี้ 3 ปี กลุ่มราคา 8 ล้านบาทขึ้นไป จะยังคงทำต่อเนื่อง แต่จะหันไปมุ่งการเติบโตในกลุ่มราคา 8 ล้านบาทลงมา เพราะเป็นตลาดใหญ่มีส่วนแบ่ง 2 ใน 3 ของตลาดแนวราบทั้งหมดมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันเอสซี มีส่วนแบ่งการตลาดในแนวราบอยู่ประมาณ 1 ใน 3 แล้ว ดังนั้น หากบริษัทสามารถสร้างฐานในตลาดราคาต่ำกว่า 8 ล้านบาทได้ จะทำให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เชื่อว่ายังมีช่องว่างให้สามารถเติบโตได้ สำหรับเป้าหมายปี 2561 รายได้ 1.7 หมื่นล้านบาท และยอดขายอยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาทเช่นกัน นายณัฐพงศ์กล่าว

สำหรับไตรมาส 3 ปีนี้ เอสซี วางแผน 10 โครงการ กระจายในทำเลครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯปริมณฑล ได้แก่ โซนปิ่นเกล้า, ราชพฤกษ์, พระราม 9, เสรีไทย และฉะเชิงเทรา ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์เพฟ, อเวนิว, บางกอก บูเลอวาร์ด, แกรนด์บางกอก บูเลอวาร์ด และ เดอะเจนทริ ระดับราคาตั้งแต่ 4-50 ล้านบาท รวมถึงโครงการเวิร์ฟ ทาวน์โฮม 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท ซึ่งทุกโครงการได้ถูกดีไซน์และออกแบบภายใต้แนวคิดการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์เรื่อง human-centric เพื่อให้ฟังก์ชันต่างๆ รวมถึง สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการแต่ ละแห่งสอดรับตรงกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยจะทยอยเปิดเข้าชมโครงการตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ