เปิดทำเลฮอต รัชดาฯ-ลาดพร้าว-พระราม 9 อสังหาฯ ผุดคอนโดฯตอบโจทย์คนดิจิทัล
ทำเลที่กำลังมาแรง เนื่องด้วยเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ หรือ CBD ณ วันนี้คือ ถนนเส้นรัชดาฯ ลาดพร้าว และพระราม 9 ยาวไปถึงอโศก จากที่เคยเป็นตึกคูหา 8 ชั้น ร้านค้า ที่ดินว่างเปล่า หรือเต้นท์ขายรถ กลายเป็นอาคารสูงตลอดเส้นถนนและลึกเข้าไปในซอยจากอพาร์ตเมนต์ หลายแห่งถูกกว้านซื้อเพื่อพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม ด้วยความต้องการที่อยู่อาศัยที่เดินทางได้สะดวก สำหรับผู้ที่พักอาศัยเอง และซื้อเพื่อการลงทุน ล่าสุด 2 ค่ายผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ปักธงทำเล รัชดาฯ ลาดพร้าว พระราม 9 โฟกัสเป้าหมายกลุ่มคนรุ่นใหม่ 'Young Achiever' ตอบไลฟ์สไตลชีวิตดิจิทัล
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดคอนโด มิเนียมในย่านใจกลางทำเลธุรกิจ ลาดพร้าว พระราม 9 และอโศก ซึ่งเป็นพื้นที่ CBD แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ มีความต้องการซื้อต่อเนื่องสูง เนื่องจากศักยภาพด้านทำเลและปัจจัยจากโครงการพัฒนาโครงข่ายรถ ไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้ ที่จะเข้ามายกระดับ ความสามารถในการเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ CBD เดิมอย่างย่านสีลม สาทร และสุขุมวิทได้โดยตรงอีกทั้งแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จึงเป็นที่ต้องการสำหรับผู้ซื้อที่ต้องการความสะดวกสบายและผู้ซื้อที่ต้องการลงทุนในการปล่อยเช่าและขายต่อเป็นอย่างมาก โดยผลสำรวจคอนโด มิเนียม เซ็กเมนต์กลางถึงบน ในย่านเชื่อมต่อพหลโยธิน-อารีย์-ลาดพร้าว และย่านเชื่อมต่ออโศก-พระราม 9-รัชดาภิเษกนั้น พบดีมานด์ที่มองหาคอนโดฯ ใหม่ติดแนวรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา การเปิดตัวโครงการใหม่ย่านเชื่อมต่อพหลโยธิน-อารีย์-ลาดพร้าว ทั้งสิ้นจำนวน 19 โครงการ ในราคาพรีเซลส์เฉลี่ย 158,000 บาทต่อตารางเมตร มียอดขายรวมกว่า 85% และย่านเชื่อมต่ออโศกพระราม 9-รัชดาภิเษก พบคอนโดฯ โครงการใหม่ทั้งสิ้น 14 โครงการ ราคาพรีเซลส์เฉลี่ยประมาณ 169,000 บาท ต่อตารางเมตร และมียอดขายรวมแล้ว กว่า 90% ซึ่งนับเป็นอัตราการตอบรับที่ดี นอกจากนี้ สำหรับผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า ระยะยาว (Rental Yeild) ของคอนโดฯ พร้อมอยู่ทั้ง 2 ย่านที่กล่าวมานั้น พบอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน อยู่ที่ประมาณ 5-6% จึงนับว่าราคาคอนโดมิเนียมในทำเลดังกล่าวนี้ ยังเหมาะสมในการซื้อทั้งเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน
ล่าสุด เอพี จึงได้เปิดคอนโดฯ ลักชัวรี่ ภายใต้แบรนด์ LIFE - Life Ladprao Valley (ไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลีย์และ Life Asoke Hype (ไลฟ์ อโศก ไฮป์) เพื่อรองรับลูกค้าคนเมืองรุ่นใหม่กลุ่ม Young Achiever โดยไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลีย์ เป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 44 ชั้น จำนวนห้องชุดทั้งสิ้น 1,140 ห้อง ประกอบด้วยห้องชุดแบบ 1) สตูดิโอ ขนาด 28.80 ตารางเมตร 2) ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาด 35-37 ตารางเมตร 3) ห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาด 48.60-66.50 ตารางเมตร พร้อม Triple Facilities ในชั้น 6 ชั้น 44 และชั้น Mezzanine โดยโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 5.2.33 ไร่ ทำเลห้าแยกลาดพร้าว เปิดขายรอบแรกผ่านระบบ AP-i-Booking ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ เวลา 19.00-21.00 น. และเปิดพรีเซลส์อย่างเป็นทางการพร้อมกันทั้งในไทยและต่างประเทศในวันที่ 4-5 ส.ค.นี้ ในราคาเริ่มต้นที่ 3.49 ล้านบาท ส่วนโครงการไลฟ์ อโศก ไฮป์ มีแผนจะเปิดตัวในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นอาคารสูง 40 ชั้น จำนวน 1,253 ยูนิต โดยทั้ง 2 โครงการดังกล่าวร่วมทุนระหว่าง เอพี และ มิตซู บิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือมิตซู บิชิ เอสเตท กรุ๊ป-MECG) มูลค่ารวมประมาณ 12,000 ล้านบาท
ด้าน ออลล์ อินสไปร์ฯ บุกย่านรัชดา ภิเษก เปิดโครงการ ดิ เอ็กเซล รัชดา 18 รับดีมานด์ทั้งอยู่อาศัยและลงทุน เปิดขายราคาเริ่ม 1.79 ล้านบาท นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แนวถนนรัชดาภิเษก-พระราม 9 เป็นทำเลที่มีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง พื้นที่บริเวณโดยรอบเป็นทำเลที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ทุกปี ซึ่งแต่ละโครงการได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี และที่สำคัญโครงการที่เปิดขายใหม่ในทำเลนี้จะมีราคาขายขยับเพิ่มขึ้นทุกปี ออลล์ อินสไปร์ฯ จึงได้เปิดโครงการใหม่ ล่าสุด ดิ เอ็กเซล รัชดา 18 เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุน
'ย่านรัชดาภิเษก' ถือว่าเป็นทำเลฮอตฮิตของกรุงเทพฯ ที่เป็นแหล่งอยู่อาศัยของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากรัชดาฯ เป็นหนึ่งในย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) โดยในปัจจุบันจากการประเมินราคาที่ดินของกรมธนารักษ์ ในปี 2559-2562 ของย่านรัชดาฯ ว่า มีราคาที่ดินตกอยู่ที่ตารางวาละ 350,000-450,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นเรตราคาสูง แต่นักลงทุนกลับกว้านซื้อที่ดินเหล่านี้" นายธนากร กล่าว
โดยทำเลย่านนี้จะมีชาวต่างชาติกลุ่มจีน ยุโรปตะวันออก และเกาหลี อาศัยอยู่จำนวนมาก โดยจุดเด่นคือ เป็นย่านธุรกิจที่มีชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนและมาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะนิยมซื้อหรือเช่าคอนโดฯ เป็นหลัก ซึ่งโครงการ ดิ เอ็กเซล รัชดา 18 เป็นคอนโดมิเนียมรูปแบบ Low Rise ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท จำนวน 270 ยูนิต 2 อาคาร ทั้งรูปแบบ 1 ห้องนอน (25-29 ตร.ม.) และ 2 ห้องนอน (39-41 ตร.ม.) เปิดขายพรีเซลส์อย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ก.ค.นี้