จีนกว้านซื้อคอนโดเชียงใหม่ลุยธุรกิจบริการรองรับทัวร์
นฤมล เกษมสุข , สาลินี ปราบ
เผยทุนจีนกว้านซื้อคอนโด เชียงใหม่ ปูพรมธุรกิจบริการ-ที่พัก-ท่องเที่ยว ครบวงจร รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางมาด้วยตัวเอง ขณะ รัฐเร่งกวดขันกฎหมายโรงแรมส่งผลทุนจีนบางส่วนเทขาย อสังหาฯ ออกมา
นายมานพ แช่เจีย ประธานชมรมมัคคุเทศก์ล้านนา เชียงใหม่ กล่าวว่า แม้ว่าจังหวัดเชียงใหม่จะพบปัญหานอมินีต่างชาติที่แฝงเข้ามาทำธุรกิจท่องเที่ยวน้อยกว่ากรุงเทพฯ และภูเก็ต แต่ปัจจุบันอยู่ในภาวะ น่ากังวล เพราะส่วนใหญ่เป็นเครือข่าย ใหญ่กระจายไปทั่วเมืองท่องเที่ยวสำคัญ หากว่าภาครัฐยังละเลยการเข้ามาตรวจสอบ เชียงใหม่ก็มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาตามมาแน่นอน
ในปี2560 มีนักท่องเที่ยวชาวจีน เข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ราว 2 ล้านคน แต่ถามว่ารายได้ที่เข้าสู่ ประเทศไทยกลับไม่ได้เต็มเม็ด เต็มหน่วย เพราะรูปแบบการท่องเที่ยว ที่ซื้อผ่านออนไลน์จากเว็บจีน และเมื่อมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ก็เข้าที่พักของคนจีนที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในรูปแบบของการซื้อคอนโดมิเนียมที่กฎหมายเปิดช่องให้ต่างชาติซื้อได้
ปัจจุบันนี้หากไปสำรวจถูกคนจีนกว้านซื้อไปเป็นส่วนใหญ่ และแม้แต่การซื้อโปรแกรมทัวร์ก็จ่ายเงินกันที่จีน ที่มีนายทุนจีนมาเปิดบริษัททัวร์รองรับในจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้การให้คนไทย เป็นนอมินี หรือมีการส่งนักท่องเที่ยว จีนกลุ่มนี้มาให้กับบริษัทคนไทย ในท้องถิ่น หากประเมินดูแล้ว ถือว่า รูปแบบการทำธุรกิจแบบนี้ โดยเฉพาะเว็บขายทัวร์และที่พักของจีน ไม่สามารถที่ไปเก็บภาษีได้เลย และเม็ดเงินไม่ได้สะพัดในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่
"เป็นที่รู้กันว่าปัจจุบันไม่มีคำว่าทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่ใช้คำว่าทัวร์ต้นทุนต่ำแทน และกรณีของ นอมินีของนายทุนจีนที่เข้ามากิจการลักษณะนี้ ภาครัฐสามารถตรวจสอบได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะตรวจสอบหรือไม่ หากไม่มีการควบคุมให้ดี โอกาสที่จะเป็นระเบิดเวลาด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ เกิดขึ้นแน่นอน"
รัฐเข้มพรบ.โรงแรมกระทบทุนจีน
นายนนท์ หิรัญเชรษฐ์ นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่ภาคเหนือ กล่าวว่า มาตรการเข้มงวดของภาครัฐที่บังคับใช้พ.ร.บ.โรงแรมพ.ศ.2547 ทำให้ธุรกิจเกสท์เฮ้าส์ และโฮทเทลในจังหวัดเชียงใหม่ได้รับกระทบ เนื่องจากกฎหมายกำหนดรูปแบบ และข้อบังคับหลายอย่าง โดยเฉพาะอาคารสิ่งปลูกสร้าง ทำให้บางกลุ่มที่เป็นนอมินีที่เข้ามาลงทุนทำธุรกิจในจังหวัดเชียงใหม่ประสบปัญหาต้องปิดกิจการชั่วคราว และถาวร ซึ่งต้องยอมรับว่า 5-6 ปีที่ผ่านมา จีนเข้ามาลงทุนในกลุ่มธุรกิจบริการ และธุรกิจท่องเที่ยว หนึ่งในจำนวนนี้ คือ ที่พัก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่หลั่งไหลเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก
โดยจะพบว่า คอนโดมิเนียมกลายเป็นสินค้ายอดฮิตที่นักลงทุนจีนเข้ามาซื้อเพื่ออยู่อาศัย และทำธุรกิจห้องพัก จึงทำให้ขณะนี้ เริ่มมีการเทขายทั้งเกสท์เฮ้าส์ และโฮลเทลของกลุ่มทุนจีน ที่ไม่ได้ปรับปรุงให้ถูกต้องตามกฎหมาย
การเข้ามาลงทุนของจีน ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนใหญ่ โดยธุรกิจที่นักลงทุนชาวจีนให้ความนิยมคือ ธุรกิจทัวร์, โรงแรม, สปา, นวด, ร้านอาหาร และร้านของที่ระลึก โดยจะเข้ามาในลักษณะร่วมทุน และนอมินี ใช้ชื่อคนไทยดำเนินธุรกิจ ซึ่งเท่าที่ทราบการเข้ามาซื้อคอนโดมมิเนียมของ นักลงทุนชาวจีน จะปรับเป็นห้องพัก รองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนรุ่นใหม่ ที่นิยมเดินทางเป็นกลุ่มด้วยตนเอง ที่มีการซื้อขายผ่านออนไลน์ และชำระเงินให้กับต้นทางที่จีน จากนั้น เมื่อจะเดินทางเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ ก็จะใช้เพียงคีย์การ์ดเท่านั้น
หอการค้าภูเก็ตจี้ปราบนอมินี
ส่วนกรณีเหตุเรือล่มในจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่5 ก.ค.ซึ่งมีนักท่องเที่ยว ชาวจีนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ส่งผลให้มีการตั้งคำถามถึงมาตรการความปลอดภัย และยังมีการตั้ง ข้อสังเกตว่าปัญหาส่วนหนึ่งมาจากนอมินีโดยใช้ชื่อคนไทยในการจัดตั้งบริษัทและมีการทำทัวร์ราคาถูกจึงทำให้คุณภาพการให้บริการลดต่ำลงด้วยจนส่งผลต่อความปลอดภัยและการตรวจสอบการจัดตั้งบริษัทนอมินีขึ้นอีกครั้ง
นายสุรชัย ชัยวัฒน์ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าถึงผลกระทบของนอมินีว่า ทางหอการค้าได้นำเสนอปัญหานอมินี มาอย่างต่อเนื่องและหลายเวทีว่าปัญหาเกิดจากทัวร์กินรวบหรือทัวร์ไม่มีคุณภาพดังนั้นจากเหตุการณ์เรือล่มที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จึงเป็น บทเรียนสำคัญในการแก้ปัญหา ให้ตรงจุดหนึ่งในนั้น คือการเปลี่ยนแปลงการจัดสล็อตการบินหรือจัดตารางบินที่เดิมเคยกระจุกตัวในตลาดจีนค่อนข้างมากได้กระจายให้กับตลาดอื่นๆมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีสายการบินจำนวนมากที่ ต้องการนำนักท่องเที่ยวเข้ามาแต่ไม่สามารถมาได้ เพราะสล็อต การบินเต็ม
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวตลาดยุโรปและตลาดอื่นๆซึ่งจะทำให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริงดังนั้นจึงควรใช้โอกาสนี้ในการจัดสล็อต
"หากหน่วยงานภาครัฐมีการ ตรวจสอบเข้มงวดในการประกอบธุรกิจผู้ที่ได้รับผลกระทบหลักจะเป็นกลุ่มของผู้ที่ ประกอบการนอมินี ด้วยกันเองเพราะปกติผู้ประกอบ ทั่วๆไปหรือคนนอกไม่สามารถที่จะเข้าไปอยู่ในวงจรของธุรกิจนอมินีได้อยู่แล้วจึงเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ทางภาครัฐจะเร่งดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจังและยังเป็นโอกาสให้ ผู้ประกอบการทั่วไปได้รับอานิสงส์จากการดำเนินการอย่างจริงจังด้วย"