แสนสิริ ฝ่าวงรีเจ็กต์เจาะกลุ่ม สตาร์ตอัพ
แสนสิริ ออกแบรนด์คอนโดฯใหม่ โฟกัสกลุ่มมิลเลนเนียล วัยเริ่มทำงาน สตาร์ตอัพ-ฟรีแลนซ์ ชี้เป็นกำลังซื้อสำคัญของตลาดอสังหาฯ สัดส่วน 40% สกัดปัญหายอดรีเจ็กต์พุ่ง
นายปิติ จารุกำจร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวโน้มกลุ่มลูกค้าในตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลังจากเปิดตัวแบรนด์ไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ "เอ็กซ์ที" 3 โครงการ ทำเล เอกมัย ห้วยขวาง และพญาไท รวมมูลค่าโครงการ 2.1 หมื่นล้านบาท จำนวน 3,500 หน่วยพร้อมกัน เจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ โดยลูกค้าสามารถเลือกออกแบบเองได้ 6 แบบ 6 สไตล์ ราคาเฉลี่ย 1.5 -2.5 แสนบาทต่อตารางเมตร (เซ็กเมนต์ B) ตั้งเป้าปิดการขายในปี 2562 ว่าขณะนี้ นอกจากกลุ่มผู้ค้า ที่มีกำลังซื้อสูงจะเป็นกลุ่มสำคัญของตลาดอสังหาฯปีนี้แล้ว
กลุ่มที่มาแรงและน่าสนใจอีกกลุ่มหนึ่ง คือ กลุ่มคนที่เรียกว่า "มิลเลนเนียล" หรือกลุ่มประชากรที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2523-2543 อายุ 18- 38 ปี เนื่องจากเป็นกลุ่มใหญ่ประมาณ 60% ของประชากรไทย เกิดมาในยุคที่มีความเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งสภาพเศรษฐกิจและสังคม การเข้ามาของเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด ขณะที่เงินทองหาได้ง่าย ทำให้คนในยุคดังกล่าว มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน ครอบคลุมทั้งกลุ่มสตาร์ตอัพ บล็อกเกอร์ ฟรีแลนซ์ คนทำงานออนไลน์ เป็นกลุ่มคนที่ไม่จำเป็นต้องทำงานในออฟฟิศเพียงอย่างเดียว โดยใช้เวลาในที่พักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตกับสมาร์ทโฟนตลอดเวลา โดยพบที่ผ่านมาแสนสิริ มีกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุตั้งแต่ 21-30 ปี มาซื้อโครงการเพิ่มขึ้นถึง 25% ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นับเป็น 40% ของกลุ่มลูกค้าทั้งหมด แม้กลุ่มดังกล่าว จะถูกมองว่ามีความเสี่ยงจากภาระหนี้ส่วนบุคคลอยู่ในอัตราสูง และเป็นกลุ่มที่มียอดปฏิเสธสินเชื่อสูงก็ตาม
"ยอดรีเจ็กต์ของแสนสิริในปัจจุบัน ไม่ต่ำกว่า 10% เยอะสุดในเซ็กเมนต์กลุ่ม B (1.7 แสน/ตร.ม.) และกลุ่ม C (เฉลี่ย 9.5 แสน/ตร.ม.) เป็นทั้งกลุ่มที่กู้แบงก์ไม่ผ่าน และกลุ่มนักลงทุนที่ถึงเวลาทิ้งโอน แต่ไม่ได้กังวลอะไร แม้โครงการนี้เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ จะเป็นกลุ่มที่ถูกเรียกว่าสตาร์ตอัพ หรือกลุ่มฟรีแลนซ์ ที่ในอดีตอาจถูกมองว่ากู้ผ่านยาก หรือ เป็นกลุ่มคนหนี้เยอะก็ตาม แต่มองว่า จริงๆ คนกลุ่มนี้ ครอบคลุมหลายอาชีพ และปัจจุบันกลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำ ส่วนใหญ่ก็มักเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง มีบุ๊กแบงก์ ที่มีเงินเข้า-ออกตลอดเวลา มีการสร้างเครดิตให้กับตัวเองอยู่แล้ว กลุ่มนี้จึงยังเป็นลูกค้าสำคัญของกลุ่มที่อยู่อาศัย"
ทั้งนี้ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า ปัจุบันมีสินเชื่อส่วนบุคคลรวม 16 ล้านบัญชี ยอดคงค้าง 1.96 ล้านล้านบาท มีหนี้เสียราว 2 แสนล้านบาท (เอ็นพีแอล) โดยพบมากในกลุ่มลูกค้าเจนวาย (มิลเลนเนียล) 17-37 ปี มีประมาณ 1.4 แสนบัญชี