บมจ.ยู ซิตี้ หรือ U จับมือกลุ่มแสนสิริ เตรียมเซ็นสัญญากรมธนารักษ์ เดินหน้าโครงการบูติก โฮเต็ล 70 ห้อง บริเวณโรงภาษีร้อยชักสาม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่า 1.2 พันล้าน

          แหล่งข่าวจากกรมธนารักษ์ เผยว่า โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุ โครงการร้อยชักสาม ขณะนี้อยู่ระหว่างอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญา หลังจากนี้ก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ก่อนลงนามกับ บมจ.ยู ซิตี้ หรือ U ต่อไป

          โดยที่ผ่านมาคณะกรรมการตามมาตรา 43 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน ได้เห็นชอบแล้ว โดยมีการเพิ่มอายุสัญญาเช่า จากเดิม 30 ปี แบ่งเป็นก่อสร้าง 2 ปี และสัญญาเช่า 28 ปี มาเป็น 36 ปี โดยก่อสร้าง 6 ปี และสัญญาเช่า 30 ปีมูลค่าของโครงการเพิ่มขึ้นจาก 700 ล้านบาท มาเป็น 1.2 พันล้านบาท

          แหล่งข่าว กล่าวว่า หลังจากที่ลงนามในสัญญาแล้ว ก็จะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ทันที โดยทางฝ่ายเอกชนได้พร้อมที่จะดำเนินการขอใบอนุญาตก่อสร้าง หลังจากโครงการเลื่อนมานานกว่า 20 ปี โดยยังคงเป็นโครงการบูติก โฮเต็ล เหมือนเดิม จำนวน 5 ชั้น ประมาณ 70 ห้องไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากเป็นพื้นที่อนุรักษ์สถานที่โบราณ โรงภาษีร้อยชักสาม

          ส่วนโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต จะมีการเสนอคณะกรรมการตามมาตรา 72 พิจารณาอีกครั้ง ในสัปดาห์หน้า ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี มูลค่าโครงการประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาท สร้างอยู่บนพื้นที่ 63 ไร่ บริษัท บางกอก เทอร์มินอล เป็นผู้รับสัมปทาน

          โครงการพัฒนาที่ดินบริเวณหมอชิต รูปแบบเป็นโครงการศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน อพาร์ตเมนต์และโรงแรม ซึ่งบางกอกเทอร์มินอลเป็นผู้รับสัมปทาน ซึ่งมีการเจรจากันว่าหากได้ดำเนินการต่อ บริษัทจะยอมจ่ายชดเชยงานก่อสร้างฐานราก 1 พันกว่าล้านบาทให้แก่กรมธนารักษ์

          นายคีรี กาญจนพาสน์ ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท ยู ซิตี้ คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างโครงการร้อยชักสามประมาณ 3 ปี โดยจะร่วมกับกลุ่มแสนสิริที่ถือหุ้นร่วมกันในยูซิตี้และเป็นพันธมิตรธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งโรงแรม และที่อยู่อาศัยมานาน และจะเป็นปีแรกที่ยูซิตี้มีกำไรและจ่ายปันผลได้ จากปีก่อนที่ยังขาดทุน

          ด้านกรณีกลุ่ม Friends of the rivers หรือ “เพื่อนแม่น้ำ” วิพากษ์วิจารณ์กรณีการพัฒนาที่ดินโรงภาษีร้อยชักสาม หรือศุลกสถาน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นที่ดินราชพัสดุในความดูแลของกรมธนารักษ์ ซึ่งพัฒนาเป็นโรงแรมหรู โดยทางกลุ่มเห็นว่าพื้นที่และอาคารศุลกสถานควรนำมาใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเป็นพิพิธภัณฑ์

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น