อสังหาฯหน้าใหม่ เผยเคล็ดลับความสำเร็จ ผุดโปรเจ็กต์เล็กกลางกรุง "ซอนเดอร์ลิฟวิ่ง" ชิมลาง เปิดโปรเจ็กต์ลักชัวรีบ้านแฝด 6 หลัง กลางลาดพร้าว 88 "อัลติจูด" ชูแนวคิดไม่ชนรายใหญ่ ขายทำเลเยี่ยม จำนวนจำกัด คว้าความสำเร็จยอดขาย เตรียมหาพาร์ตเนอร์ลุยโครงการมิกซ์ยูสมูลค่ากว่า 5,000 ล้าน

          นางสาวพิรพรรณ ภูมิวสนะกรรมการบริหาร บริษัท ซอนเดอร์ ลิฟวิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ได้ร่วมกับพาร์ตเนอร์รุกเข้าสุ่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กับโครงการ ดี8 (D8) มูลค่าโครงการกว่า 300 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านแฝด 6 ชั้น 6 หลัง มีลิฟต์ และ สระว่ายน้ำทุกหลัง โรงรถจอดได้ 6 คัน ตั้งอยู่บริเวณซอยลาดพร้าว 88 ซึ่งสามารถทะลุออกเอกมัยไม่ถึง 15 นาที ใกล้ทางด่วน เจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัวคนรุ่นใหม่

          "ในโครงการและราคาของบ้านที่ตั้งไว้ เน้นความคุ้มค่าคุ้มราคา เมื่อเทียบราคาต่อตารางเมตร อยู่ที่ตารางเมตรละ 5.6 หมื่นบาท พื้นที่ใช้สอย 703 ตารางเมตร มี 4 ห้องนอน มีลิฟวิ่งรูมใหญ่ เรามิกซ์หรือปรับเป็นห้องอย่างอื่นได้ เราเน้นครอบครัวสมัยใหม่ ที่ไม่ต้องทิ้งพ่อแม่"

          นางสาวพิรพรรณกล่าวและว่า โครงการนี้เน้นความเป็นส่วนตัว ผนังกั้นระหว่างบ้านหนา 30 เซนติเมตร เป็นบ้านในเมือง ที่เป็นทางเลือกของคนที่ต้องการซื้อบ้านด้วยเหตุและผล คนที่อยากอยู่ในเมือง ใกล้โรงพยาบาลและห้างสรรพสินค้า โดยโครงการจะเริ่มพรีเซลบ้านจริงประมาณเมษายน-พฤษภาคม 2562

          นางสาวพิรพรรณ กล่าวว่า จากการแข่งขันในตลาดไฮเอนด์ที่มีสูงขึ้นทั้งแนวสูงแนวราบ บริษัท ไม่ได้เน้นที่จะเข้าไปแข่งกับเจ้าใหญ่ แต่เน้นเจาะที่กลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการบ้านที่มีฟังก์ชัน การใช้งานพร้อม ซึ่งบริษัท ใช้จุดแข็งจากฐานบริษัทเดิมที่มีทั้งอินทีเรียดีไซน์ และส่วนของซอนเดอร์ลิฟวิ่ง ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ เข้ามาเสริมในแง่ของบริการ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด

          นายขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการเป็นผู้เล่นหน้าใหม่รายเล็กในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท จึงวางกลยุทธ์ตัวเองชัดเจนว่าจะไม่ชนกับรายใหญ่ และเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นนิชมาร์เก็ต โดยมีหลักในการดำเนินธุรกิจ 3 ข้อ คือ 1.โลเกชันที่ดี 2. ราคา และ 3. ฟังก์ชันดีไซน์

          "จากปัจจัยที่คนให้ความสำคัญกบการเดินทาง อัลติจูดฯ จะทำโครงการที่เดินทางสะดวก เป็นนิชโลเกชัน ผมรู้ว่าตลาดไม่มีอะไร ผมก็เข้าไปเติมตรงนั้น" นายขวัญชัยกล่าวและว่า ทำเลลักษณะนี้มีเยอะ โปรดักต์ของอัลติจูดฯ ไม่ได้แพงกว่ารายอื่นๆ แต่มีความคุ้มค่ามากกว่า กำลังซื้อในตลาดมีไม่มาก การขายโครงการใหญ่ต้องใช้เวลา 2 ปี แต่สำหรับอัลติจูดฯ เป็นโครงการบ้าน 8 หลัง ขายให้คน 8 คน ทำการตลาดแค่เดือนเดียว มีคนสนใจเข้ามาดู 100 กว่าคนในทุกๆ เดือน

          นายขวัญชัย กล่าวว่า กลยุทธ์ระยะ 3 ปีของอัลติจูดฯ โฟกัส 90% อยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินอยู่หลายแปลงที่อยากได้ แค่รอจังหวะที่จะเข้าไปดิว อย่างไรก็ตาม เป้าหมายต่อไป คือ การสร้างโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ซึ่งมองทำเลในกรุงเทพฯ ไว้แล้ว และถือเป็นหนึ่งในทำเลที่แพงที่สุด น่าจะได้เห็นในอีก 2 ปี ซึ่งคาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ทั้งค่าที่ดินและก่อสร้าง และภายในปี 2563 จะนำบริษัท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ