ร่มเกล้าที่พุ่งวาละ3แสน ปลดล็อกผังเมืองเอื้อคอนโด-ทาวน์เฮาส์
บิ๊กอสังหาฯ กระทุ้งกทม.ปลดล็อกผังเมืองรอบสนามบินสุวรรณภูมิรับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม อีอีซี โฟกัสร่มเกล้า ที่พุ่งวาละ 3 แสน ผุดทาวน์เฮาส์-คอนโดฯ แทนบ้านเดี่ยว เหตุโครงข่ายสมบูรณ์ ด้านกทม. กำหนดศูนย์ชุมชนใหม่ ไฟเขียวเอกชนตะลุมบอน
สืบเนื่องจากรัฐบาลเร่งผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ได้แก่ดอนเมือง-สุวรรณภูมิอู่ตะเภา รองรับการลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก จึงมีความชัดเจนว่า ทิศทางการขยายตัวของเมืองต้องวิ่งไปตามโครงสร้างพื้นฐานที่วางไว้
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าการขยายตัวของเมืองออกไปทางโซนตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการลงทุนโครงการขนาดใหญ่โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยเฉพาะรัศมีห่างจากสถานีสนามบินสุวรรณภูมิไม่เกิน 10 กิโลเมตร ควรใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดความคุ้มค่า ทั้งที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม ขณะเดียวกันทำเลร่มเกล้า กทม.ควรปรับข้อกำหนดผังเมืองรวมฉบับใหม่ เป็นพื้นที่สีเหลือง (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย) และพื้นที่สีส้ม (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง) เพิ่มความถี่พัฒนาทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียมรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยกลุ่มคนทำงานโซนสนามบิน และรัศมีใกล้เคียง มองว่าไม่ควรล็อกเป็นพื้นที่สีเขียว (เกษตรกรรม)และพื้นที่สีเขียวลาย (อนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม) ขณะที่ราคาที่ดินแพงตารางวาละ 2-3 แสนบาท แต่พัฒนาได้เพียงบ้านเดี่ยวทำให้บ้านที่นำออกขายมีราคาสูงระดับ 10-20 ล้านบาทขึ้นไป ปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิยอมรับว่ามีศักยภาพในตัวเอง ยิ่งโครงข่ายพร้อม ทั้งระบบรางและถนน ยิ่งทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้น ส่วน โซนตะวันตก ยังช้ากว่าโซนตะวันออก ดูจากทางด่วนฉิมพลีเพิ่งเปิดใช้ และรถไฟฟ้ายังไม่แล้วเสร็จ
"พื้นที่รอบสนามบินสุวรรณภูมิโตแบบก้าวกระโดด จากการมีสาธารณูปโภค แหล่งงาน สถานศึกษา และชัดเจนมากที่สุด เมื่อช่วง 2 เดือนก่อน ห้างเซ็นทรัลเปิดตัวบริเวณทางเช้าสนามบินด้านทิศใต้และห้างสยามพิวรรธน์ เปิดตัวด้านทิศเหนือของสนามบิน ยิ่งรัฐเพิ่มอีอีซีเข้าไป ยิ่งทำให้ทำเลนี้คึกคักมากขึ้น แต่สุดท้ายผังเมืองต้องสอดคล้องกัน อนาคตต้องมีการปรับการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยสนับสนุนให้รอบสนามบินสุวรรณภูมิ ร่มเกล้า-ลาดกระบังเป็นศูนย์ชุมชนใหม่ รองรับการขยายตัวจากเมืองชั้นใน รอบสเตชันรถไฟความเร็วสูง ควรถือโอกาสปรับให้เป็นเมืองบริวาร ซึ่งเป็นเมืองขนาดย่อมรูปแบบมิกซ์ยูส แบ่งเบาความหนาแน่นของกทม.ส่วนดอนเมืองพื้นที่เต็ม แต่รอบๆ สุวรรณภูมิยังมีพื้นที่ว่างอีกมาก รวมถึงฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยอง ควรกำหนดเป็นเมืองบริวาร"
แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร กล่าวว่าได้เพิ่มศูนย์ชุมชนใหม่บริเวณถนนร่มเกล้าทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ (ศูนย์ลาด กระบังใหม่) กำหนดเป็นพื้นที่สีแดง พ2 (พาณิชยกรรมระดับ2) เนื้อที่ 1,000-2,000 ไร่ ขยายพื้นที่มาทางกิโลเมตร 10 ห้างแฟชั่นไอแลนด์ ซึ่งเป็นจุดตัด ระหว่างถนนรามอินทรา-วงแหวนฯ และถนนเกษตรฯนวมินทร์นอกจากนี้ยังขยายพื้นที่สีเหลืองอยู่อาศัยหนาแน่นน้อยเพิ่มขึ้นซึ่งจะคล้ายศูนย์ลาดกระบัง เดิม ซึ่งพัฒนาได้ทั้งเชิงพาณิชย์ และที่อยู่อาศัยหลากหลายเนื่องจากมีแหล่งงาน ดังนั้นจึงเพิ่มพื้นที่สีเหลือง เนื้อที่ 1,000 ไร่ที่บริเวณถนนร่มเกล้า ใกล้ สถานีแอร์พอร์ตลิ้งค์ ร่มเกล้าซึ่งมีที่ดินว่างจำนวนมาก
นายพนิต ภู่จินดา อาจารย์ประจำคณะสถาปัตย กรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหา วิทยาลัย ที่ปรึกษาวางผังภาค ของกรมโยธาธิการและผังเมืองระบุว่า ที่ผ่านมาผังเมืองรวมกทม.ได้กำหนดให้บริเวณร่มเกล่า บริเวณแยกกิ่งแก้ว เป็นพื้นที่สีแดง พัฒนาเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งปัจจุบันการพัฒนายังไม่เต็มพื้นที่ กรณีเอกชนเสนอให้ขยายการใช้ประโยชน์ที่ดินเพิ่มนั้นมองว่ายังไม่จำเป็น
นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัทโมเดิร์นพร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนส์ฯ กล่าวว่า ที่ดิน บนถนนสายสำคัญเช่นร่มเกล้า ลาดกระบัง ราคาอยู่ที่ 1 แสนบาทต่อตารางวาขึ้นไป ซึ่งมองว่ามีศักยภาพ แต่ พื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นพื้นที่รับน้ำหรือฟลัดเวย์ แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เลือกพัฒนาในพื้นที่สีเหลืองหรือที่อยู่อาศัยมากกว่าพื้นที่สีเขียว เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาน้ำท่วม
สอดคล้องกับ นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี ประ เทศไทยฯ ระบุว่าโซนตะวันออกมีศักยภาพสูงที่สุดในกทม. เนื่องจากมีโครงข่ายเชื่อมต่อเมืองชั้นใน และสนามบิน ประกอบกับรัฐบาลปักหมุดโครงการอีอีซี ยิ่ง ทำให้การเติบโตมีความชัดเจนขึ้น ส่วนราคาที่ดินอยู่ที่ 1-3 แสนบาทต่อตารางวา