LPNเปิดเรือธงรุกตลาดแนวราบพรีเมียม ปรับแผนปล่อยเช่าห้องชุด'ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต'
แอล.พี.เอ็น.ฯ เปิดเกมรุกตลาดอสังหาฯผ่านกลยุทธ์ "Year of Change" กับโมเดลรุกตลาดโครงการแนวราบระดับลักชัวรี "BAAN 365 By LPN" เรือธงใหม่ เริ่ม 18-60 ล้านบาท ระบุยอดจองก่อนเปิดขายจริง 14-15 ก.ค. เกือบพันล้านบาท จากเป้า 600 ล้านบาท เล็งหาแปลงที่ดินทำเลศักยภาพพระราม 9 เปิดโครงการต่อ คาดภายใน 3 ปี พอร์ต แนวราบแตะ 30% ปรับแนวบริหารโครง การใหญ่ "ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1" ปล่อยเช่า 3,000 ยูนิต เสริมรายได้
นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ "LPN" กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่สำคัญของแอล.พี.เอ็น.ฯ โดยตั้งแต่ต้นปี บริษัทฯได้กำหนดกลยุทธ์เป็นปีแห่ง "Year of Change" โดยเริ่มจากการรุกตลาดอาคารสำนักงาน เพื่อขยายธุรกิจในโครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร อยู่บนที่ดินผืนเดียวกันประมาณ 8 ไร่เศษ มูลค่าสูงถึง 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งแรก ที่มีทั้งที่ อยู่อาศัยและอาคารสำนักงาน และล่าสุด เพื่อให้สอดรับกับนโยบายการปรับตัว ทางบริษัทได้เปิดโครงการแนวราบระดับพรีเมียมครั้งแรก คือ โครงการ "BAAN 365 By LPN" พระราม 3 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์เพื่อเป็นเรือธงสำคัญในการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมระดับไพรม์ เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับ B+ขึ้นไป
โดยตัวโครงการ BAAN 365 By LPN จะมีมูลค่า 3,200 ล้านบาท จำนวน 99 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 41 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 35-60 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม 58 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท โดยแบ่งการขายเป็น 2 เฟส เฟสแรก มูลค่า 1,600 ล้านบาท จำนวน 30 ยูนิต เปิดขาย 14-15 ก.ค.นี้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้มีการเปิดให้ลูกค้าเข้ามาจองแล้ว โดยที่มียอดจองถึงวันที่ 2 ก.ค. 61 อยู่ที่ 700 ล้าน บาท จำนวน 20 ยูนิต และคาดว่าก่อนถึงวันงาน น่าจะมียอดจองเข้าเกือบพันล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ตั้งถึงสิ้นเดือนก.ค.นี้ ประมาณ 600 ล้านบาท
สำหรับแผนการส่งมอบโครงการดังกล่าว จะทยอยโอนในช่วงไตรมาส 4/61 ซึ่งใช้ระยะเวลาการก่อสร้างราว 8 เดือน โดยที่คาดว่าจะทยอยโอนในไตรมาส 4/61 อยู่ที่ 800 ล้านบาท จากเป้ายอดขายเฟสแรกถึงสิ้นปีที่ 1,200 ล้านบาท ส่วนอีก 400 ล้านบาท จะทยอยโอนในช่วงปี 62 โดยในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดโอนโครงการแนวราบอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท (รวมบริษัทพรสันติ จำกัด) จากเป้าหมายยอดโอนทั้งหมด 12,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการ BAAN 365 By LPN เป็นโครงการระดับพรีเมียมจะคิดเป็นสัดส่วน 5-7% ของสัดส่วนยอดโอนทั้งหมดในปีนี้ และตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนเป็น 10% ของยอดโอนทั้งหมดภายในปี 62 โดยที่จะมีการเปิดโครงการเฟส 2 และเปิดโครงการ BAAN 365 By LPN ในทำเลอื่นๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการมองหาที่ดิน
"โครงการ BAAN 365 By LPN เป็นโครงการที่คุณทิฆัมพร เปล่งศรีสุข และคุณพิเชษฐ ศุภกิจจานุสันติ์ ทุ่มสุดตัว ในการลงมาดูโครงการนี้ และเป็นความตั้งใจของผู้บริหารที่มีจะสร้างบ้านภายใต้แนวคิด Livable Simple Luxury House เรียบง่ายแต่พิถีพิถันกับทุก รายละเอียด ตั้งแต่การเลือกที่ดิน การออกแบบที่เข้าใจ ให้ความสำคัญ และคำนึงถึงการอยู่อาศัยจริง จึงลดทอนความซับซ้อนและสิ่งที่เกินความจำเป็นออกไป มีการวางผังพื้นที่ใช้งานให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการอยู่อาศัย ที่มีการดีไซน์ห้องต่างๆ ให้ใกล้เคียงกัน เพื่อรองรับคนหลายวัยในครอบครัว สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นทั้งพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่สังสรรค์ร่วมกันได้ เลือกใช้วัสดุที่คงทนดูแลง่าย เพื่อเน้นคุณค่าของการใช้งานอย่างแท้จริง ผนวกกับการก่อสร้างที่พิถีพิถัน อันสะท้อน ตัวตนของ LPN ที่เข้าใจการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย และที่สำคัญที่สุดคือ การบริหารโครงการภายใต้กลยุทธ์ "Livable Community" หรือ "ชุมชนน่าอยู่" เพื่อสร้างความสุขที่แท้จริงของการอยู่อาศัยให้กับทุกครอบครัว" นายสุรวุฒิ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทได้มองถึงการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนจากรายได้ประจำ (Recurring Income) ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนน้อยและไม่มีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงาน โดยที่ตั้งเป้าภายในสิ้นปี 62 จะผลักดันสัดส่วนรายได้ประจำให้เพิ่มเป็น 10% ของรายได้รวม โดยนำโครงการลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 โครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ที่พัฒนาไปแล้วและอยู่ระหว่างการตกแต่งปรับรูปแบบเป็นอพาร์ตเมนต์ให้เช่า อัตราค่าเช่า 5,000-5,500 บาท/เดือน สัญญาเช่า 1 ปี ซึ่งได้เริ่มปล่อยเช่าไปแล้ว 200 ยูนิต จาก 1,500 ยูนิตที่อยู่ระหว่างการตกแต่ง โดยบริษัทได้มีเป้าหมายในอนาคต เพิ่มจำนวนยูนิตของอพาร์ตเมนต์ให้เช่าเป็น 3,000 ยูนิต ซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนรายได้ประจำให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น และในช่วงปลายปี 62 จะมีการเริ่มส่งมอบพื้นที่เช่าของอาคารสำนักงานย่านวิภาวดีให้กับ ผู้เช่า ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะมีสัดส่วนรายได้ประจำเพิ่มเป็น 10% ได้ตามเป้าหมาย
ขณะที่เป้าหมายในปี 63 บริษัท ได้ตั้งเป้ารายได้รวมอยู่ที่กว่า 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม 15,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 5,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30% เมื่อเทียบกับสัดส่วนรายได้แนวสูง
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท แอล.พี.เอ็น.ฯ กล่าวเสริมว่า เรากำลัง พิจารณาทำเลศักยภาพพระราม 9 รองรับการเปิดโครงการแนวราบระดับลักชัวรี ขนาดเนื้อที่ 10 ไร่ ก็น่าจะเพียงพอในการพัฒนา ซึ่งตามแผนแล้ว บริษัทยังต้องใช้งบลงทุนซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการแนวราบไปถึงปี 63 ส่วนที่ดินพัฒนาโครงการคอนโดฯมีเพียงพอถึงปี 2563 แล้ว