ผู้บริหาร'แสนสิริ'ซื้อหุ้นโบรกฯมองธุรกิจเร่งตัวดีขึ้น
ข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า เมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการ แนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI รายงานขายหุ้นจำนวน 5 แสนหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 1.58 บาท คิดเป็นมูลค่ารายการรวม 7.9 แสนบาท โดยเป็นการทำรายการครั้งแรกของเขาในรอบปีนี้ การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในรอบเดือนที่ผ่านมาปรับตัวลดลง โดยเดือนพ.ค.ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.57% จากราคา 1.68 บาท เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.74 บาท โดยราคาสูงสุดที่ 1.79 บาท ต่ำสุดที่ 1.66 บาท ขณะที่เดือนมิ.ย.ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 12.42% จากราคา 1.77 บาท ลดลงมาอยู่ที่ 1.55 บาท โดยราคาสูงสุดที่ 1.84 บาท ต่ำสุดที่ 1.55 บาท ด้านบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)กล่าวว่า ยอดจองสะสมไตรมาส 2 ปี 2561 มากถึง 9.6 พันล้านบาทเพิ่มขึ้นแรง 40% จากไตรมาส 1 ปี 2561 ที่ทำได้ 6.9 พันล้านบาท หลังทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมได้รับการตอบรับดีมาก โดยยอดจองโครงการแนวราบ 2 เดือนแรกของไตรมาส 2 ปี 2561 อยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท เกือบเท่ากับ ยอดจองแนวราบไตรมาส 1 ปี 2561 หลังเปิดโครงการทาว์นเฮาส์ใหม่ไปแล้ว 6 โครงการ มูลค่า 3.6 พันล้านบาท ทำให้ยอดจองโครงการแนวราบสะสมล่าสุดสูงถึง 7.4 พันล้านบาท คิดเป็น 47% ของเป้าทั้งปี ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังมีแผนเปิดโครงการแนวราบใหม่อีก 9 โครงการ ส่งผล ให้ยอดจองทั้งปีมีโอกาสสูงเกินเป้าที่ตั้งไว้ 1.57 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน ส่วนยอดจองคอนโดมิเนียม 2 เดือนแรกของไตรมาส 2 ปี 2561 อยู่ที่ 6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2561 ที่ 3.1 พันล้านบาท หลังมีการเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมอีก 6 โครงการ ทำให้ยอดจองคอนโด ค่อยๆเติบโตขึ้น จากล่าสุดมี ยอดจองสะสมแล้ว 1.66 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 37% ของเป้าทั้งปีที่ 4.5 หมื่นล้านบาท
โดย ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2561 มียอดโอนในมือแล้ว 1.25 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 50% ของเป้าโอนปีนี้ ที่ 2.28 หมื่นล้านบาท ซึ่งจากแนวโน้มยอดจองแนวราบที่ดีมาก ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2561 และน่าจะดีต่อเนื่องไปถึงสิ้นปี คาดว่าจะสร้าง ยอดโอนรวมกันได้อีก 8 พันล้านบาท ขณะที่การขายสต็อกคอนโดมิเนียมน่าจะทำได้ 2 พันล้านบาท หลัง 5 เดือนแรกขายไปได้แล้วเกือบ 1.8 พันล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรปีนี้ จะอ่อนตัวลง เนื่องจากปีนี้จะไม่มี การโอนคอนโดมิเนียมหรู 98 Wireless
อย่างไรก็ตามยอดโอนจากบริษัทร่วมทุนจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว เป็น 9.5 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ 4.5 พันล้านบาท โดยมีมูลค่างาน ในมือ (Backlog) แล้ว 71% ทำให้เชื่อว่ากำไรจากบริษัทร่วมจะ เพิ่มมากจาก 25 ล้านบาท เป็น 676 ล้านบาท