ประเดิม หมื่นล้าน ผุดพรีเมียมเอาท์เล็ตกรุงเทพฯ สยามพิวรรธน์ร่วมทุน ไซม่อน
Loading

ประเดิม หมื่นล้าน ผุดพรีเมียมเอาท์เล็ตกรุงเทพฯ สยามพิวรรธน์ร่วมทุน ไซม่อน

วันที่ : 6 มิถุนายน 2561
ประเดิม หมื่นล้าน ผุดพรีเมียมเอาท์เล็ตกรุงเทพฯ สยามพิวรรธน์ร่วมทุน ไซม่อน

เฟส2 สร้างมหานคร "เที่ยว ดื่ม กิน"รับ100ล้านคน

สยามพิวรรธน์ ประกาศ ร่วมทุนยักษ์ใหญ่อสังหาฯ เพื่อการค้าปลีกระดับโลก "ไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป" ลุย "ลักชัวรี พรีเมียม เอาท์เล็ต"  วาดแผน 3 ปี ทุ่ม "หมื่นล้าน" ปักธง 3 ทำเลหลัก  กรุงเทพฯภาคเหนือ-ภาคใต้  สานยุทธศาสตร์มุ่ง "สร้างเมือง-บุกต่างจังหวัด" มั่นใจดึงอำนาจซื้อ นักท่องเที่ยว พร้อมตอกย้ำศักยภาพไทย "ชอปปิงพาราไดซ์" แห่งภูมิภาค ชี้รอบ 8-10  เดือน สัญญาณบวกไทยเนื้อหอมทัพต่างชาติสนใจปักฐานธุรกิจ

ศักยภาพไทยที่มีฐานประชากรกว่า 70 ล้านคน มีการขยายตัวของชนชั้นกลางและไลฟ์สไตล์การบริโภคที่มองหาสินค้าคุณภาพสูง (แบรนด์เนม) ในราคาเหมาะสมคุ้มค่ามากขึ้น และมีนักท่องเที่ยวเดินทาง เยือนกว่า 35 ล้านคนต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 40-50 ล้านคน นับเป็นขุมทองของบรรดาธุรกิจแขนงต่างๆ ที่ต่างมุ่งหน้าปักธงลงทุน

ล่าสุดกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อ การค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของโลก "ไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป" ประกาศ "ร่วมทุน" กับ "สยามพิวรรธน์" เจ้าของและผู้บริหารโครงการค้าปลีกที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมืองสัญลักษณ์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อขยายธุรกิจ "ลักชัวรี พรีเมียม เอาท์เล็ต" เพิ่มความหลากหลายของจุดหมายปลายทางด้านการค้าปลีกและไลฟ์สไตล์ในเมืองไทย

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวว่า การผนึกกำลังระหว่างสยามพิวรรธน์และไซม่อน จะเป็นการพลิกโฉมวงการค้าปลีกของไทยและเสริมความแข็งแกร่งของการเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวและชอปปิงที่นักเดินทางทั่วโลกจะต้องมาเยือน โดยได้จัดตั้ง บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจ "ลักชัวรี พรีเมียม เอาท์เล็ต" โดยถือสัดส่วนหุ้นเท่ากันที่ 50% ทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 130 ล้านบาท วางแผน 3 ปีใช้งบลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท เปิดลักชัวรี พรีเมียม เอาท์เล็ต 3 แห่ง เริ่มจากกรุงเทพฯ ทำเลโซนตะวันออก บนพื้นที่ 150 ไร่ อีก 2 แห่งจะอยู่ในภาคเหนือ และภาคใต้

ชี้เทรนด์พรีเมียมเอาท์เล็ตเติบโตสูง

ธุรกิจพรีเมียมเอาท์เล็ต หรือเอาท์เล็ต มอลล์ในไทยและหลายประเทศทั่วโลกมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยเฉพาะในไทยซึ่งอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวสูงเฉลี่ย 10-15% ขณะที่ผู้บริโภคชาวไทยนิยมสินค้าแบรนด์เนมมากขึ้น

"แนวคิดในการพัฒนาธุรกิจเอาท์เล็ตของสยามพิวรรธน์ถูกบรรจุอยู่ในแผน 5 ปี ซึ่งการทำไม่ใช่เรื่องง่ายเป็นธุรกิจเฉพาะที่ต้องมีประสบการณ์ ช่ำชอง มีคอนเน็คชั่น กับแบรนด์ทั่วโลก ดังนั้นจึงขอเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้เชี่ยวชาญ โดยเริ่มคุยกับไซม่อนมากกว่า 12 เดือนที่ผ่านมา"

ไซม่อน หนึ่งในบริษัทผู้นำของโลกในการสร้างโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทางด้านชอปปิง กินดื่ม บันเทิง และมิกซ์ยูส นับเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกอันดับหนึ่งของโลก ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหญ่สุดของโลก มีมากกว่า 230 โครงการในพอร์ตโฟลิโอ

โดยสัญญาร่วมทุนกับสยามพิวรรธน์ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกของไซม่อนที่เข้าสู่ตลาดเมืองไทย เป็นประเทศที่ 4 ในเอเชีย ซึ่งไซม่อนเข้าสู่เอเชียราว 20 ปี เริ่มจากญี่ปุ่น ปัจจุบันมีเครือข่ายสาขาเอาท์เล็ต 9 แห่ง เกาหลี 4 แห่ง และมาเลเซีย 2 แห่ง หากนับรวมทั่วโลกมีเครือข่ายพรีเมียมเอาท์เล็ต 96 แห่ง

พรีเมียมเอาท์เล็ตระดับลักชัวรีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกและเป็นที่รู้จักกันดีของบรรดานักช้อป คือ วู้ดเบอรี คอมมอน พรีเมียม เอาท์เล็ต ในมหานครนิวยอร์ก เป็นเอาท์เล็ตขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมี เตซเซิร์ท ฮิลส์ พรีเมียม เอาท์เล็ต ใกล้ลอสแองเจลิส ส่วนในเอเชีย เช่น โกเท็มบะ พรีเมียม เอาท์เล็ต ในญี่ปุ่น ยอจู พรีเมียม เอาท์เล็ต ในเกาหลี และยะโฮร์ พรีเมียม เอาท์เล็ต ในมาเลเซีย

ทั้งนี้ โครงการแรกในกรุงเทพฯ คาดเริ่มก่อสร้างเดือน ส.ค.นี้ กำหนดเปิดบริการ ต.ค.2562 ประกอบด้วย ร้านค้ากว่า 200 ร้าน ทั้งร้านค้าลักชัวรีแบรนด์และแบรนด์ดีไซเนอร์ที่เป็นที่ชื่นชอบและได้รับความนิยม อินเตอร์เนชั่นแนลและไทยแบรนด์ ภายใต้ส่วนลด 25-70% ทุกวันเช่นเดียวกับทั่วโลก

สานยุทธศาสตร์ "สร้างเมือง"

นางชฎาทิพ กล่าวต่อว่า ยุทธศาสตร์ของสยามพิวรรธน์มุ่งพัฒนาโครงการที่ดีที่สุดไม่เป็นสองรองใคร รูปแบบการพัฒนาโครงการเน้นความยั่งยืน และผนึกความร่วมมือพันธมิตรธุรกิจในการ "สร้างเมือง" สอดรับการเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์ในแต่ละยุคสมัย รวมถึงรองรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก

โดยธุรกิจ ลักชัวรี พรีเมียม เอาท์เล็ต จะเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ของการสร้างเมือง รวมทั้งสอดรับนโยบายการขยายตลาดสู่ต่างจังหวัดอีกด้วย เป็นโมเดลธุรกิจที่จะธุรกิจเติบโตได้โดยมีความเสี่ยงต่ำ

ขณะเดียวกัน การพัฒนาโครงการในยุคมิลเลเนียลส์จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์โลก ซึ่งสยามพิวรรธน์มีแนวคิดในการสร้างเมืองตัวอย่างในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย

"สยามพิวรรธน์ และไซม่อน มีวิสัยทัศน์ค้าปลีกเดียวกันมุ่งให้ความสำคัญต่อการนำเสนอประสบการณ์น่าตื่นเต้นเร้าใจที่มากกว่าการมาซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว พร้อมมอบโอกาสให้ผู้ที่มาเยี่ยมเยือนจุดหมายปลายทางต่างๆ ได้พบปะผู้คน เติมเต็มความสุขและความสนุกสนาน เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ค้นหาสิ่งที่สนใจและไลฟ์สไตล์ของตนเอง"

ไทยเนื้อหอมต่างชาติแห่ปักธง

การผนึกพันธมิตรร่วมทุนครั้งนี้ยังเป็นการตอกย้ำสถานะความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและภาคเอกชนที่มีการขับเคลื่อนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติต่อศักยภาพประเทศไทย เชื่อว่าจะทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกหันมองไทยมากขึ้น ทำให้ไทยเป็นเวทีค้าปลีกที่เด่นชัดในสายตานักลงทุน

"ไทยเนื้อหอมมากในสายตาธุรกิจต่างประเทศ ทั้งกลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม ศูนย์การค้า บรรดายักษ์ใหญ่ล้วนอยากมาลงทุนในไทย ซึ่งรอบ 8-10 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามีนักลงทุนสนใจขยายตลาดในไทยจำนวนมาก"

จะเห็นว่าตลาดการลงทุนในทุกเซ็กเมนท์ธุรกิจของไทยมีขนาดใหญ่ขึ้นมากจากการสนับสนุนและผลักดันการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลในด้านต่างๆ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ดึงดูดนักลงทุนเข้ามาปักหลักสร้างฐานธุรกิจไทยอย่างต่อเนื่อง

ไซม่อนชี้ไทยศักยภาพสูง

นายมาร์ค ซิลเวสทรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของไซม่อน กล่าวว่า ไทยเป็นตลาดศักยภาพสูงและเป็นเป้าหมายการลงทุนของไซม่อน ซึ่งขณะนี้เป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการเปิดบริการลักชัวรี พรีเมียม เอาท์เล็ต และที่ผ่านมา ไทยเป็นหนึ่งในลิสต์ของไซม่อนมาโดยตลอด

"ไซม่อน มีประสบการณ์ในธุรกิจเอาท์เล็ตมากว่า 40 ปี เป็นอันดับ 1 ของโลก มีเครือข่ายในทุกทวีป เรามีความตื่นเต้นที่ได้นำพรีเมียมเอาท์เล็ตซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลกเข้าสู่ไทย

ภายใต้ความร่วมมือกับสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีความโดดเด่นที่จะร่วมกันพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง"

ซิลเวสทรี กล่าวว่า ความร่วมมือของทั้ง 2 บริษัท จะช่วยให้สามารถสร้างเอาท์เล็ตที่อาจเป็นที่คุ้นเคยของคนไทยที่เคยเดินทางไปต่างประเทศ แต่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย และยังมีประโยชน์ต่อแบรนด์สินค้าชั้นนำอีกด้วย"

ไซมอนเป็น พร็อพเพอร์ตี้  กรุ๊ป ตั้งอยู่ในสหรัฐ เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาและเจ้าของโครงการค้าปลีกที่ใหญ่และประสบความสำเร็จ ด้วยมูลค่าตลาดรวม 8 หมื่นดอลลาร์ และเป็นบริษัทในตลาดหุ้นนิวยอร์ก และได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุด โดยเอสแอนด์พี

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ