SAMCOกางแผนไตรมาส2 เปิด2โครงการ1.4พันล้าน
Loading

SAMCOกางแผนไตรมาส2 เปิด2โครงการ1.4พันล้าน

วันที่ : 9 พฤษภาคม 2561
SAMCOกางแผนไตรมาส2 เปิด2โครงการ1.4พันล้าน

สัมมากรกางแผนไตรมาส 2/61 เตรียมเปิดขาย 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 1,400 ล้านบาท มั่นใจผลตอบรับดี เหตุทำเลมีศักยภาพสูง ลั่นทั้งปีเล็งเปิด 3 โครงการ โกยยอดขายปีนี้พุ่ง 1,500 ล้านบาท วางเป้ารายได้ปีนี้โต 10%

นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2/2561 บริษัทมีแผนเปิดขายโครงการใหม่ จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,400 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีความมั่นใจจะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง โดยเป็นทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ ได้แก่ โครงการสัมมากร อเวนิว สุวรรณภูมิ เป็นทาวน์โฮม จำนวน 322 ยูนิต บนพื้นที่ 31 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท ระดับราคาขาย 3.4-3.5 ล้านบาทต่อยูนิต จะเปิดขายอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2561 นี้ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายจะมียอดขายประมาณ 6-8 ยูนิตต่อเดือน

สำหรับโครงการดังกล่าว มีจุดเด่น คือ ทำเลที่ตั้งโครงการโดดเด่น ตั้งอยู่บนถนนตัดใหม่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน ซึ่งที่ดินโดยรอบมีแนวโน้มได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ กลายเป็นพื้นที่หนึ่งที่จะมีความเจริญน่าจับตามอง ทั้งนี้ ปัจจุบันงานก่อสร้างภายในโครงการเริ่มทยอยเสร็จบางส่วน แต่ยังมีงานก่อสร้างสาธารณูปโภค เช่น ถนนภายในโครงการ พื้นที่ส่วนกลาง เป็นต้น ที่ยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง

ส่วนอีกโครงการ คือ โครงการ พาร์ค รามอินทรา-วงแหวน เป็นโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น จำนวน 22 ยูนิต บนที่ดิน 3 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 6.5 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งจะดำเนินการเปิดตัวโครงการในช่วงไตรมาส 2/2561 หลังจากเลื่อนการเปิดโครงการมาจากปี 2560 เนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้อต่อการเปิดโครงการ

นายกิตติพล กล่าวต่อว่า บริษัทมั่นใจยอดขาย (Presale) ในปีนี้จะเติบโตที่ระดับ 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 1,200 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,700-2,800 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2/2561 จำนวน 2 โครงการ และเปิดขายในช่วงครึ่งปีหลังอีกจำนวน 1 โครงการ คือ โครงการ สัมมากร รังสิต คลอง 7 ขยายเฟส 4 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 350 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,300-1,400 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ย 4 ล้านบาทต่อยูนิต

ด้านแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมจะเติบโตประมาณ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,211.98 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือรวมมูลค่าประมาณ 150-200 ล้านบาท ซึ่งจะใช้เวลาทยอยรับรู้ประมาณ 3 เดือน นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทยังมีสินค้าพร้อมโอน (สต๊อก) ในมือมูลค่ารวมประมาณ 800 ล้านบาท แบ่งเป็นจากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 300 ล้านบาท และจากโครงการแนวราบประมาณ 500 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในส่วนตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ คาดว่าแนวโน้มยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการน่าจะเติบโตได้ประมาณ 10% จากปีก่อน เนื่องจากยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักเรื่องกำลังซื้อ ยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้ยอดขายไม่โต และสถาบันการเงินก็ยังคงเข้มงวดเรื่องการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากเครดิตของตัวลูกค้าเองเป็นหลัก

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ