5อสังหาฯกำไรโตสูงสุด RICHY-SENAนำทีม
Loading

5อสังหาฯกำไรโตสูงสุด RICHY-SENAนำทีม

วันที่ : 9 พฤษภาคม 2561
5อสังหาฯกำไรโตสูงสุด RICHY-SENAนำทีม

กูรูเปิดโผอสังหาฯ 5 อันดับแรก คาดกำไร Q1 โตสูงสุด นำโดย RICHY อันดับหนึ่งลุ้นโตสูงสุด 844% ฟันกำไร 42 ล้านบาท อันดับสอง SC โต 215% กำไร 237 ล้านบาท อันดับสาม SENA คาดกำไร 200 ล้านบาท โต 183% อันดับสี่ ORI ลุ้นกำไร 340 ล้านบาท โต 98% และอันดับห้า AP จ่อกำไร 800 ล้านบาท โต 46%

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 1/2561 ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 12 บริษัท คาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,900 ล้านบาท เติบโต 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 45% จากไตรมาสก่อน ซึ่งกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 1/2561 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 17% ของเป้าหมายกำไรสุทธิทั้งปี 2561 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 39,855 ล้านบาท เติบโต 6% จากปีก่อน

สำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 12 บริษัท ประกอบด้วย 1.บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN, 2.บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP, 3.บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH, 4.บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN, 5.บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI,

6.บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH, 7.บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH, 8.บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICHY, 9.บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC, 10.บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA, 11.บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI และ 12.บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI

โดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 1/2561 เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับหนึ่ง RICHY คาดไตรมาส 1/2561จะมีกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 42ล้านบาท เติบโต 844% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จะแจ้งงบไตรมาส 1/2561 ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2561

อันดับสอง SC คาดไตรมาส 1/2561 จะมีกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 237 ล้านบาท เติบโต 215% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจะแจ้งงบไตรมาส 1/2561 ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 อันดับสาม SENA คาดไตรมาส 1/2516 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 200 ล้านบาท เติบโต 183% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจะแจ้งงบไตรมาส 1/2561 ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2561

อันดับสี่ ORI คาดไตรมาส 1/2561 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 340 ล้านบาท เติบโต 98% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจะแจ้งงบไตรมาส 1/2561 ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 และอันดับห้า AP คาดไตรมาส 1/2561 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 800 ล้านบาท เติบโต 46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจะแจ้งงบไตรมาส 1/2561 ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2561

ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ฯ ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็น ซื้อจากแนวโน้มอุตสาหกรรมที่ยังฟื้นตัว ตามภาพรวมกำลังซื้อและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรัวตัวดีขึ้น โดยเลือก SPALI และ SC เป็นหุ้น Top Pick

โดย SPALI กำหนดราคาเป้าหมาย 27 บาท/หุ้น จากความสามารถในการทำกาไรที่สูงสุดในกลุ่มยอดขายรอโอน (Backlog) รอโอนที่พร้อมโอนในปีนี้ และในอีก 2 ปีข้างหน้าที่สูง รวมถึงจะกลับมาจ่ายเงินปันผลตามปกติในปีนี้ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 5% ต่อปี  และ SC กำหนดราคาเป้าหมายที่ 5 บาท โดยคาดว่ากำไรสุทธิของในปี 2561 จะอยู่ที่ระดับ 2,070 ล้านบาท เติบโตโดดเด่น 64% จากปีก่อน เนื่องจากจะมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ ศาลาแดง วัน (Saladaeng One) จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 2/2561 และโครงการ บีทนิค (BEATNIQ) จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 3/2561

ส่วนหุ้นที่ยังที่แนวโน้มยอดขาย (Presales) และกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 1/2561 ที่จะโดดเด่ดเมื่อเทียบกับกลุ่ม ได้แก่ 1.AP กำหนดราคาเป้าหมายที่ 9.50 บาท โดยยอดขายในช่วงไตรมาส 1/2561 จะเติบโต 168% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2561 จะเติบโตสูง 46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยังคงมีคอนโดมิเนียมที่รอโอนต่อเนื่อง จากไตรมาส 4/2560 ที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับยอดโอนโครงการแนวราบยังทำได้ดีต่อเนื่อง

2.ORI กำหนดราคาเป้าหมายที่ 22 บาท คาดยอดขายในช่วงไตรมาส 1/2561 จะเติบโต 248% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 1/2561 จะเติบโตโดดเด่น 98% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอด Backlog รอโอนในไตรมาส 1/2561 และมีคอนโดมิเนียมใหม่เริ่มโอนอีกจำนวน 1 โครงการ คือโครงการ ไนท์บริดจ์ ติวานนท์ (Knights Bridge Tiwanon) มูลค่าโครงการ 1,150 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีหุ้นขนาดเล็กที่มีความน่าสนใจและมีแนวโน้มการเติบโตได้ดี ได้แก่ 1.RICHY กำหนดราคาเป้าหมายที่ 2.30 บาท ซึ่งคาดกำไรสุทธิปี 2561 จะอยู่ที่ 312 ล้านบาท เติบโตได้โดดเด่น 135% จากปีก่อน จากการโอนโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการริชพาร์ค@ทริปเปิลสเตชัน ซึ่งจะเริ่มโอนในช่วงไตรมาส 2/2561 ทำให้คาดว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตสูงถึง 87% จากปีก่อน

และ 2.SENA กำหนดราคาเป้าหมายที่ 5 บาท จะเริ่มขยายตลาดเชิงรุกมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายยอดขายในช่วง 3 ปีข้างหน้า จะเติบโตเฉลี่ย 43% ต่อปี ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 1/2561 จะเติบโตโดดเด่น 183% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการโอนคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ต่อเนื่อง และยังมีคอนโดมิเนียมใหม่เริ่มโอนในไตรมาส 1/2561 อีกจำนวน 1 โครงการ คือ โครงการ เดอะ นิช โมโน สุขุมวิท 50 (The Niche Mono Sukhumvit 50)

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ