พลัส ชี้ทาวน์เฮาส์2-4ล.มาแรง ระบุตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ตรงจุด
พลัสฯ เผยผลสำรวจทาวน์เฮาส์ กทม.-ปริมณฑล พบเติบโตดี กลุ่มราคา 2-4 ล้านบาทมาแรง ระบุ 3 ปีที่ผ่านมา ซัปพลายขยายตัว15% ต่อปีสอดรับดีมานด์ที่ขยายตัว 18% ต่อปี แจงอัตราการดูดซับต่อเดือนสูง จับตาทำเลทองโซนฝั่งตะวันตกและเหนือ กทม. เหตุสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และเป็นพื้นที่ที่มีการขยายการก่อสร้างรถไฟฟ้าและโครงข่ายคมนาคมตามแผนภาครัฐ ดันความต้องการอยู่ในอาศัยในทำเลเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ทำเลใกล้ นิคมอุตฯ นวนคร อัตราการดูดซับเฉลี่ยอยู่ที่ 7.9 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า จากข้อมูลของฝ่ายวิจัยและพัฒนา ของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ได้ทำการสำรวจที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่ามีแนวโน้มเติบโตทั้งในส่วนของดีมานด์ และซัปพลาย สอด คล้องตามทิศทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวดี ภาครัฐมีการขยายการก่อสร้างรถไฟฟ้าและโครงข่ายคมนาคมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงความต้องการด้านที่อยู่อาศัยของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป ต้องการอยู่ไม่ไกลจากเมือง หรือไม่ไกลจากศูนย์กลางธุรกิจ และระดับราคาที่อยู่อาศัยไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ทำให้ทาวน์เฮาส์ ในพื้นที่ปริมณฑล หรือย่านชานเมืองใกล้กรุงเทพฯ ได้รับการตอบรับที่ดี
จากข้อมูลล่าสุด (ณ สิ้นปี 2560) พบว่าทาวน์เฮาส์ที่ระดับราคา 2-4 ล้านบาท เป็นตลาดที่มีอัตราการเสนอขายที่โดดเด่น ด้วยสัดส่วนที่สูงถึง 68% รองลงมา คือ ระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท 22% ระดับราคา 4-7 ล้านบาท 9% และระดับราคาสูง กว่า 7 ล้านมีเพียง 1% ซึ่งการเติบโตของระดับราคา 2-4 ล้านบาท ถือว่ามีความน่า สนใจเพราะมีการขยายตัวได้ดีทั้งในส่วนของดีมานด์ และซัปพลาย สะท้อนได้จากข้อมูลในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอุปทานขยายตัวโดยเฉลี่ยปีละ 15% โดยดีมานด์ขยายตัวเฉลี่ยปีละ 18% และมีอัตราดูดซับสูง รวมถึงจำนวนเดือนที่คาดว่าจะขายหมดอยู่ที่ 11.5 เดือน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดที่ 13.9 เดือน ทำให้ตลาดทาวน์เฮาส์ ที่ราคา 2-4 ล้านบาทมีศักยภาพน่าสนใจสูง
สำหรับทำเลที่น่าสนใจและมีศักยภาพ การเติบโตได้แก่โซนตะวันตกตั้งแต่ธนบุรีไปจนถึงศาลายา-บางใหญ่-นนทบุรี โดยเฉพาะบริเวณราชพฤกษ์ รัตนาธิเบศร์ กัลปพฤกษ์ สุขสวัสดิ์ และโซนเหนือตั้งแต่ลาดพร้าว-จตุจักร ไปจนถึงปทุมธานีลำลูกกา-ลาดหลุมแก้ว โดยทั้งสองโซนเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่มีประชากรหนาแน่น มีการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมที่หลากหลาย ทำให้เอื้ออำนวยในการเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองของกลุ่มที่มีกำลังซื้อ และเป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
นอกจากนี้ อีกหนึ่งทำเลที่น่าจับตามองและอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ได้แก่ โซนนิคมอุตสาหกรรมนวนคร เป็นอีกโซนหนึ่งที่มีความน่าสนใจในตลาดทาวน์เฮาส์ มีอัตราการดูดซับเฉลี่ยอยู่ที่ 7.9 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ ดีมานด์หลักมาจากกลุ่มคน ในท้องถิ่นรวมไปถึงแรงงานทั้งชาวไทยและ ชาวต่างชาติที่ย้ายมาทำงานในนิคมอุตสาหกรรม ทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองและซื้อลงทุน
"การที่ตลาดทาวน์เฮาส์ระดับราคา 2-4 ล้านบาท และทำเลข้างต้นได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้อนั้น มาจากระดับราคาที่ไม่สูงมากและมีอรรถประโยชน์ที่เหมาะสม สอดคล้องกับกำลังซื้อของคนในพื้นที่ (รายได้เฉลี่ยของครัวเรือนปัจจุบันในแต่ละพื้นที่กรุงเทพมหานครอยู่ที่ 30,000-40,000 บาทต่อครัวเรือน)" นายอนุกูล กล่าว