LALINลุยเปิด2โครงการQ2 โชว์พรีเซลQ1 พุ่ง 1.5 พันล้าน
“ลลิล” เผยไตรมาส 1/61 กวาดยอดขาย 1,400-1,500 ล้านบาท รับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น ขณะที่ไตรมาส 2 เดินหน้าเปิด 2 โครงการ มูลค่า 1,200 ล้านบาท ย้ำเป้ายอดขายปีนี้ตามนัด 4,500 ล้านบาท พร้อมมั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า 4 พันล้าน
นายชูรัตฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 1/2561 บริษัทมียอดขาย (Presale) ประมาณ 1,400-1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้
โดยในช่วงไตรมาส 1/2561 มีการเปิดโครงการแนวราบใหม่ จำนวน 1 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 450 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ดี ปัจจุบันมียอดขายแล้วประมาณ 35-40% นอกจากนี้ ยังมียอดขายจากโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในมืออย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ในช่วงไตรมาส 2/2561 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโครงการแนวราบทั้ง 2 โครงการ
“ภาพรวมของภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากที่เศรษฐกิจไทยที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้ประชาชนมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น และกำลังซื้อของประชาชนทยอยเพิ่มขึ้นตามลำดับ หลังหนี้สินครัวเรือนเริ่มมีการปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากการลงทุนของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง” นายชูรัตฏ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทยังมั่นใจยอดขายในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ระดับ 4,500 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 8-10 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก คิดเป็น 80% ของจำนวนโครงการเปิดใหม่ ส่วนที่เหลือเป็นโครงการในทำเลต่างจังหวัด จะเป็นจังหวัดหัวเมืองใหญ่ ๆ
ส่วนแนวโน้มรายได้ในปีนี้ บริษัทยังมั่นใจจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ระดับ 4,000 ล้านบาท โดยรายได้ของบริษัทจะมาจากการส่งมอบโครงการแนวราบเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ทั้งหมดมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบทั้งหมด จะทยอยรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดในปีนี้ บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ไว้วางใจบริษัท ด้วยการวางคอนเซ็ปต์ ความคุ้มค่าในการอยู่อาศัย และการเลือกทำเลศักยภาพ ตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์และราคา และเน้นการทำ Digital Marketing และ CRM Strategy ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีการใช้โฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อในรูปแบบดั้งเดิมควบคู่กันไปด้วย
นอกจากนี้ ประเมินตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปีนี้ น่าจะเติบโตได้ประมาณ 5-8% ซึ่งโดยปกติแล้วตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเติบโต 1-1.5 เท่า ของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ซึ่ง GDP ในปีนี้ตามที่หน่วยงานภาครัฐได้คาดการณ์ไว้จะเติบโตอยู่ที่ 4-4.5% ถือว่ามีอัตราการเติบโตที่สูง