ที่รามคำแหงพุ่ง5เท่า ยักษ์อสังหาฯแข่งเปิดคอนโดฯรับรถไฟฟ้าสายสีส้ม
รามคำแหงร้อนดันที่พุ่ง 5 เท่า บิ๊กทุนเปิดศึกผุดคอนโดฯ ชนสนั่นรับสายสีส้มโฟกัสสถานีรามคำแหง 12-หัวหมากสุดฮอต ตร.ว.ละ 1 แสนพุ่ง 4-5 แสน ศุภาลัยคว้าที่แปลงงามเล็งผุดคอนโดฯ 1,000 หน่วย ค่ายพฤกษา ลุยไตรมาส 4 เอสซี ผุดบ้านหรู
ก้าวหน้าไปแล้วกว่า 7% สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี โดยเฉพาะ ช่วงสัญญา 2 ระหว่าง สถานีรามคำแหง 12-หัวหมาก ซึ่งพลิกจากตึกเก่าเป็นทำเลทองของคอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 2-3 ล้านบาท กระทั่งราคาที่ดินขยับแรง 4-5 แสนบาท จาก 1 แสนบาทต่อตารางวา ช่วงยังไม่มีรถ ไฟฟ้าพาดผ่าน
"ฐานเศรษฐกิจ" สำรวจทำเลรามคำแหง ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงจุดตัดถนนพระราม 9-ถนนรามคำแหง พบว่าตลอดแนวบนถนนรามคำแหงถึงแยกลำสาลี มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นสลับกับแปลงที่ดินซึ่งล้อมรั้วรอพัฒนา ซึ่งบิ๊กเนมทุกค่ายมาครบ โดยค่ายใหญ่ บริษัทแสนสิริ จำกัด(มหาชน) ซึ่งพัฒนาทั้งแบรนด์ เดอะเบส การ์เด้นท์ รามคำแหงซอย 7 และดี-คอนโดช่วงราม คำแหงซอย 9 ปัจจุบันมีลูกบ้านอยู่อาศัยแล้ว
ขณะเดียวกัน ฝั่งตรงข้ามค่ายแสนสิริยังปักธงอีก 1 โครงการอยู่ระหว่างก่อสร้างติดกับ โครงการ เมทริส พระราม 9-รามคำแหง ของบมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท ด้าน ค่ายอนันดา พัฒนาโครงการไอดีโอ นิว พระราม 9-รามคำแหงในนามบริษัทอนันดา เอ็มเอฟเอเชียรามคำแหง จำกัด ซื้อที่ดินจำนวน 4 ไร่ ติดรามคำแหงซอย 7 จากเจ้าของกระเบื้องโอฬาร และบ้านปลูกสร้างเอง 2-3 หลัง ส่วนความคืบหน้าอยู่ระหว่างก่อสร้าง 10% จำนวน 990 หน่วย สอบถามพนักงานขาย ระบุว่า ราคาขายต่อหน่วย 2 ล้านบาทเศษ ขายแล้ว 70% ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่า และกลุ่มคนทำงานในย่านพระราม 9 รามคำแหง การแข่งขันยอมรับว่ารุนแรง เนื่อง จากหลายค่าย ต่างเปิดตัวโครงการขายพร้อมกัน ทำเลเดียวกัน และระดับราคาไม่ต่างกัน
อย่างไรก็ดีทำเลที่ร้อนแรงจะอยู่บริเวณสถานีรามคำแหง 12 ซึ่งติดกับห้างเดอะมอลล์ และ ฝั่งของ บริษัทกระเบื้องโอฬาร ส่วนบมจ.เอสซีแอสเสท ซื้อที่ดินต่อจาก บริษัทธารารมณ์ ตั้งแต่ปากซอย 11 จำนวน 3 ไร่ แต่เนื่องจากรูปแปลงที่ดินยาวเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว และมีขนาดเล็ก จึงพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวหรูสไตล์โมเดิร์นขนาด 100 ตารางวา จำนวน 13 หลัง ราคาเริ่มต้นที่ 45 ล้านบาท
ส่วนที่ดิน ซอยรามคำแหง 13 ทั้งซอย จนสุดคลองแสนแสบ เป็นของ ศ.น.พ. สิระ บุณยะรัตเวช ที่ผ่านมามีบริษัทพัฒนาที่ดินติดต่อขอซื้อแต่ไม่ขาย เนื่องจากเป็นที่ดินมรดก ซื้อมาตั้งแต่เป็นที่นาตารางวะ 300-1,000 บาท
ขณะที่ สถานีหัวหมากซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมเจาะอุโมงค์ พบว่า ที่ดินแปลงติดกับตัวสถานี บมจ.ศุภาลัย เพิ่งประมูลที่ดินได้ ไม่เกิน 3 เดือน เนื้อที่เกือบ 20 ไร่ เดิมเป็นที่ตั้งของแฟลตพนาสินหลังจากหมดสัญญาเช่า เฉลี่ยตารางวาละประมาณ 2.5 แสนบาท จากเดิมราคาไม่ถึง 1 แสนบาทต่อตารางวา เนื่องจากเป็นที่ดินแปลงใหญ่ วิเคราะห์ว่าทำเลนี้ค่อนข้างมีศักยภาพ นอกจากติดสถานีรถไฟฟ้าแล้วด้านหน้าติดกับถนนใหญ่รามคำแหง 24/2 หากลูกบ้านจะใช้เส้นทางบนถนนและด้านท้ายแปลงทะลุมหาวิทยาลัยอัญสัมชัญหรือเอแบควิ่งออกถนนพระราม 9 ถนนศรีนครินทร์ และซอยรามคำแหง 24/4 เป็นที่ดินแปลงใหญ่ กว่า 10 ไร่ ราคา 2.5 แสนบาทต่อตารางวา
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ. ศุภาลัย ยอมรับว่า ได้ที่ดินแปลงดังกล่าวจริงจากการประมูล ซึ่งเป็นที่ดินแปลงใหญ่ มีบริษัทพัฒนาที่ดินร่วมประมูลหลายราย ความคืบหน้าบริษัทอยู่ระหว่างออกแบบ เพื่อขึ้นโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 1,000 หน่วย ส่วนการแข่งขันมองว่าทำเลนี้ ไม่มากเท่าไหร่ เนื่องจากยังไม่มีใครขึ้นโครงการ และที่ผ่านมาศุภาลัยได้พัฒนาและขายทำเลรามคำแหงใกล้กับเดอะมอลล์ ช่วงรามคำแหง 12 แล้ว
ด้าน นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวว่า บริษัทซื้อที่ดิน ทำเลหัวหมาก ใกล้กับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งไตรมาส 4 จะเริ่มพัฒนา จำนวน 500 หน่วย มูลค่า 500-1,000 ล้านบาท โดยราคาขายอยู่ที่ กว่า 2 ล้านบาทต่อหน่วย
นายวสันต์ คงจันทร์ กรรม การผู้จัดการ บริษัทโมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด สะท้อนว่าราคาที่ดินบนถนนรามคำแหง ช่วงที่ยังไม่มีรถไฟฟ้าสายสีส้มราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1 แสนบาทต่อตารางวา และเมื่อมีรถ ไฟฟ้ามาปัจจุบันอยู่ที่ 3-5 แสนบาทต่อตารางวา โดยที่ดินในซอยราคา 3 แสนบาทต่อตารางวาหากติดถนนรามคำแหง 4-5 แสนบาทต่อตารางวา ซึ่งขยับขึ้น 4-5 เท่า ส่วนแยกลำสาลีราคา 3 แสนบาทต่อตารางวา จากเดิม 1 แสนบาทต่อตารางวา
ในซอยราคา 3 แสนบาทต่อตารางวา หากตํดถนนรามคำแหง 4-5 แสนบาทต่อตารางวา