เพซ ลุยต่ออสังหาหรู เน้นโครงการกลางเมืองขาย-เช่ายันปี'62 ลดหนี้เหลือแค่พันล้าน
Loading

เพซ ลุยต่ออสังหาหรู เน้นโครงการกลางเมืองขาย-เช่ายันปี'62 ลดหนี้เหลือแค่พันล้าน

วันที่ : 25 เมษายน 2561
เพซ ลุยต่ออสังหาหรู เน้นโครงการกลางเมืองขาย-เช่ายันปี'62 ลดหนี้เหลือแค่พันล้าน

เพซยันไม่ทิ้งอสังหาฯ หรู เตรียมกลับมาพัฒนาโปรเจกต์ใหม่หลังล้างหนี้ เน้นไม่เกินหมื่นล้านเสร็จใน 3 ปี รูปแบบคอนโด-ออฟฟิศให้เช่า

นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า บริษัทจะเริ่มกลับมาพัฒนาโครงการใหม่ในปี 2562 โดยยังเน้นโครงการหรูมูลค่าโครงการไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเน้นโครงการขนาดเล็ก โดยอยู่ระหว่างพิจารณาทั้งรูปแบบคอนโดมิเนียมและอาคารสำนักงานใช้เวลาพัฒนาต่อโครงการไม่เกิน 3 ปี

ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สิ้นรวมอยู่ราว 1.5 หมื่นล้านบาท และภายในกลางปีนี้จะลดลงเหลือ 1 หมื่นล้านบาท จากการนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายโรงแรมและจุดชมวิวให้กับกลุ่มคิงพาวเวอร์รายได้รวม 1.4 หมื่นล้านบาท มาชำระหนี้และจะชำระหนี้ตั๋วแลกเงินระยะสั้น (บี/อี) 1,800 ล้านบาท ภายในปีนี้ ส่วนหนี้ที่เหลือเป็นหุ้นกู้ระยะยาวที่จะครบกำหนดในปี 2563 ราว 1,200 ล้านบาท และภาระหนี้กับธนาคาร ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย ซึ่งจะมีกำหนดชำระตามการโอนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทพัฒนาอยู่

สำหรับโครงการมหานครมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ราว 3,000 ล้านบาท ส่วนยูนิตที่เหลือขายอีก 53 ยูนิต มูลค่าไม่เกิน 5,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างการเจรจาขายแบบบิ๊กล็อต ซึ่งกลุ่มคิงพาวเวอร์ก็ให้ความสนใจ และมีผู้สนใจ 2-3 ราย ส่วนโครงการที่เหลือมูลค่ารวม 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โครงการมหาสมุทรจะแล้วเสร็จปีนี้

ทั้งนี้ จะหาพันธมิตรทางการเงินเข้ามาพัฒนาโครงการเพิ่มเติมในรูปแบบเวลเนสเซ็นเตอร์ คาดจะชัดเจนปีนี้ ส่วนโครงการนิมิต หลังสวน และโครงการวินด์เซลล์ จะแล้วเสร็จและรับรู้รายได้ปี 2562 ทั้งนี้ จะมีการรับรู้รายได้จากโครงการที่ นิเซโกะ 80 ไร่ มูลค่า 500 ล้านบาท ในปีนี้ด้วย

"ที่ผ่านมาบริษัทมีการลงทุนจำนวนมาก และเป็นโครงการที่ใช้เวลาในการพัฒนานาน ประกอบกับเจอกับวิกฤตปัญหาตั๋วบี/อี แต่หลังจากทยอยลดหนี้ลงมาถึงจุดเหมาะสมจะเริ่มกลับมาพัฒนาโครงการปีหน้า" นายสรพจน์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทจะเดินหน้าขยายธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้ แบรนด์ดีนแอนด์ เดลูก้า ทั้งสาขาในประเทศและต่างประเทศ โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับพาร์ตเนอร์เพื่อขยายสาขา ในจีน เพราะเป็นตลาดใหญ่และลูกค้าจีนชื่นชอบแบรนด์จากสหรัฐ คาดว่าจะชัดเจนภายในปีนี้ โดยจะให้พาร์ตเนอร์เป็นผู้ลงทุนด้านการขยายสาขาในจีน ปัจจุบันมีสาขาดีนแอนด์เดลูก้า ญี่ปุ่น มาเก๊า และเตรียมจะเปิดสาขาที่ สนามบิน ฮ่องกง ในอีก 2 เดือนข้างหน้า

 
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ