สต๊อกบ้านอ่วมภาษี โอดอัตราพาณิชย์สูง15เท่าเทียบบ้านหลังที่สอง
ดีเวลอปเปอร์ ยันกระทุ้งต่อคลัง/กมธ. ให้สต๊อกบ้านเหลือขายจ่ายภาษีที่ดินอัตราเดียวกับบ้านหลังที่สอง 0-50 ล้านบาท เสีย 0.02% เผยอัตราพาณิชย์ ต้นทุนสูงกว่า 15 เท่า บวกแน่ราคาขาย ฟันธง บ้านจัดสรรขายไม่ทันระยะยกเว้นภาษี 3 ปี หลังกฎหมายมีผลใช้
แม้การจัดเก็บภาษีที่ดินจะใช้ราคาประเมินของกรมธนารักษ์ซึ่งต่ำกว่าราคาซื้อขายตลาด 50% แต่ในความเป็นจริงที่ผ่านมาคือ ทั้งสต๊อกบ้านเหลือขายและบ้านหลังที่สองไม่เคยเสียภาษีโรงเรือนมาก่อน ทำให้ผู้ประกอบการต้องผลักภาระให้กับคนซื้อบ้าน ดังนั้น ทางออกของปัญหาดังกล่าว ทางผู้ประกอบการได้เรียกร้องต่อกระทรวงการคลังและคณะกรรมาธิการวิสามัญ ร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ... จัดหมวดหมู่ให้สต๊อกบ้านอยู่ในหมวดบ้านหลังที่สอง ซึ่งภาษีที่ดินใหม่จัดเก็บในอัตรา 0.02%
นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เสนอใหสต๊อกบ้านใช้อัตราเดียวกับบ้านหลังที่สอง มูลค่า 0-50 ล้านบาท ตามราคาประเมินเสียภาษี 0.02 % หากใช้อัตราพาณิชย์มูลค่า 0-50 ล้านบาท เสีย 0.3% ต่างกันถึง 15 เท่ามองว่าแม้ได้รับยกเว้นเสียภาษี 90% ภายใน 3 ปี หลังได้รับใบอนุญาตทั้งบ้านจัดสรรและอาคารชุดแต่ประเมินว่าผู้ประกอบการไม่น่าขายได้หมดภายในระยะเวลา 3 ปี ส่งผลให้หน่วยเหลือขายต้องผลักภาระภาษีบวกเข้าไปในราคาบ้าน ซึ่ง กมธ.รับปาก จะกลับไปทบทวน แต่มุมกลับผู้ประกอบการเองต้องหาทางออกรับมือ
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัทในกลุ่มบ้านพรไพลิน กล่าวว่าแม้การเรียกเก็บภาษีที่ดินโดยใช้เกณฑ์ของราคาประเมินกรมธนารักษ์ ซึ่งต่ำกว่าราคาซื้อขายตลาดก็จริง แต่ที่ผ่านมา บริษัทพัฒนาที่ดินไม่เคยเสียค่าใช้จ่าย จากสต๊อกบ้านเหลือขาย จากภาษีโรงเรือน และภาษีบำรุงท้องที่ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ผู้ประกอบการต้องบวกเข้าไปในราคาขาย เสียภาษีอัตราเท่าใดก็บวกเท่านั้นเนื่องจากบ้านจัดสรร ต้องใช้เวลานาน ซึ่งโครงการของบริษัทเอง บางโครงการใช้เวลานาน 5 ปี รวมถึงโครงการบ้านจัดสรรเก่าที่พัฒนาต่อไม่ได้และขาดสภาพคล่องแบงก์ยึด หากขายออกไม่ได้ก็ต้องแบกภาระต่อไป ซึ่งในตลาดมีหลายโครงการ
ด้านนายปิยะประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) สะท้อนว่าการเรียกเก็บภาษีที่ดินโดยใช้ฐานของราคาประเมินกรมธนารักษ์ ไม่กระทบต่อผู้ประกอบการมากนัก เพราะราคาซื้อขายตลาดทำเลศักยภาพสูงกว่าราคาประเมิน 30-40% ขณะที่ราคาประเมิน 4 ปีปรับครั้งแต่ที่ดินซื้อขายตลาดปรับขึ้นทุกปีหรือระหว่างปีอาจปรับขึ้นหลายครั้งโดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า
ผู้ประกอบการเอง หากเสียภาษีแต่ก็เป็นส่วนน้อยจากราคาประเมิน แต่มั่นใจว่าภายใน 3 ปี ที่กฎหมายผ่อนผันให้มีการพัฒนาตลอดจนขาย คาดว่า ไม่น่าจะมีสต๊อกเหลือ เนื่องจากค่ายพฤกษา เน้นซื้อที่ดินทำเลตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า ประกอบกับราคาขายต่อหน่วยไม่สูงหากเทียบกับโครงการของค่ายอื่นในละแวกเดียวกัน แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับทำเล บางโครงการขายหมดภายในวันเดียวก็มี
แต่กรณีบ้านจัดสรร หาก เป็นโครงการบ้านเดี่ยว อาจใช้เวลานาน ไม่ต่ำกว่า 4 ปี โครงการทาวน์เฮาส์ อาจใช้เวลา 3 ปี ขึ้นอยู่ที่ระดับราคา ความต้องการและทำเล แน่นอนว่า หากพ้นระยะ 3 ปี ผู้ประกอบการต้องบวกภาษีเข้าไป แต่หากบางทำเลขายไม่ดี ก็อาจจะบวกน้อยและโยกไปบวกโครงการอื่นที่ขายดีเนื่องจากเป็นกระเป๋าเดียวกัน
ขณะที่ นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนะนำให้ซื้อที่ดินแปลงเล็กทำเลดี พัฒนาเร็วขายเร็ว ซึ่งหลายโครงการหากเป็นคอนโด มิเนียมของศุภาลัยจะขายดี ส่วนโครงการบ้านจัดสรรจะใช้เวลาพัฒนาขายภายใน 3 ปี แต่ต้องเป็นโครงการไม่ใหญ่มาก อยู่ในทำเลที่มีดีมานด์
สอดคล้องกับ พล.ท. ชาญชัย ภูทอง โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพ.ศ. ... ย้ำว่าท้องถิ่นจะมีรายได้จากการเรียกเก็บภาษีจากที่ดินเป็นหลัก ตามราคาประเมินซึ่งกรมธนารักษ์พิจารณาปรับปรุงทุก 4 ปี เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 5-20% ทั่วประเทศ เหตุผลที่ผ่อนปรนการเรียกเก็บภาษีในระยะแรก เพื่อลดแรงกดดันกับเอกชนที่เสนอขอมา