ธุรกิจอสังหาลุ้น ไตรมาส 2 กำลังซื้อฟื้น
ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ บรรดาผู้ประกอบการต่างเร่งเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ เนื่องจากเห็นสัญญาณกำลังซื้อยังมีทิศทางที่ดีขึ้น
เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดในเวลานี้ยังคงมีการแข่งขันรุนแรง ทั้งนี้ขึ้นกับ โปรดักต์และทำเล โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ เช่น รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสีน้ำเงิน สีเขียว สีส้ม และสีชมพู เป็นต้น แต่บางทำเลยังต้องระวังซัพพลายที่ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าตลาดจะโต ได้ถึง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา โดยได้ปัจจัยบวกหนุนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดอกเบี้ยที่ยังไม่ ปรับขึ้น จีดีพีเติบโตดี การก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่เปิดโอกาสในการพัฒนาพื้นที่ใหม่ๆ แต่ราคาที่ดินกลับเป็นปัจจัยสำคัญเมื่อที่ดิน ราคาสูงจะทำให้บ้านมีราคาสูงขึ้นตาม ดังนั้นนักพัฒนาอสังหาฯ นอกจาก จะสร้างโปรดักต์ให้มีความต่าง สามารถตอบโจทย์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละทำเลแล้ว ยังต้องสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้ามีความคุ้มค่ากับราคาที่ดินที่แพงขึ้นด้วย
ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท กล่าวว่า ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ คาดว่าจะเติบไม่เกิน 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา เพราะมีการเร่งเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมาเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ มองว่าตลาดจะไปเติบโตในช่วงปลายไตรมาส 2 ต่อเนื่องไปไตรมาส 3 ซึ่งพิจารณาจากแผนการพัฒนาของผู้ประกอบการหลายราย ซึ่งมีการซื้อที่ดินตุนรอพัฒนา โดยตลาดในกลุ่มระดับ 3-5 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตได้ดี
ในส่วนของอสังหาฯ แนวราบ นั้น จะเห็นได้ว่ากลุ่มทาวน์เฮาส์และ บ้านแฝดมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่บ้านเดี่ยวเริ่มชะลอตัวเพราะ มีข้อจำกัดในเรื่องของการเดินทางและ มีราคาสูง จึงทำให้บ้านแฝดกลายเป็น ทางเลือกของผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะผู้บริโภคที่เคยอยู่คอนโดมีความ ต้องการขยายครอบครัวแต่ยังอยู่ใน ทำเลในเมือง ซึ่งแนวโน้มจะเป็น รูปแบบบ้านแฝด หรือบ้านเดี่ยวเน้นพื้นที่ใช้สอย
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาดอสังหาฯ ในครึ่งปีแรก มองว่าเป็นบวกจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ดี การลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐก็ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ ทางด่วนเชื่อมวงแหวน
รวมไปถึงโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ที่มีความชัดเจนมากขึ้นในด้านผังเมืองและแผนการพัฒนาด้านการคมนาคม ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสและเพิ่มศักยภาพให้กับพื้นที่ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา มากขึ้น คาดว่าจะต้องใช้เวลา 3-5 ปี ถึงจะเห็นการเติบโตอย่างชัดเจน เนื่องจากต้องรอโครงสร้างพื้นฐานแล้วเสร็จบางส่วนก่อน ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบรายใหญ่ได้กว้านซื้อรอพัฒนาแล้ว
ภาคย์ธนา ปรีดาวิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภาพัฒน์ พรอพเพอร์ตี้ ประเมินว่าภาพรวมตลาดแนวราบระดับเซ็กเมนต์กลางและบนยังมีโอกาสเติบโต แม้การแข่งขันจะสูงเนื่องจากราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก ขณะที่ตลาดคอนโดอาจต้องระวังเรื่องของดีมานด์ ซึ่งหากสร้างแล้วขายไม่ได้จะส่งผลกระทบต่อภาพรวม ซึ่งผู้ประกอบการต้องหากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนในแต่ละทำเลเพื่อให้แข่งขันได้
สุรเชษฐ กองชีพ นักวิจัยตลาด อสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า แนวโน้ม ตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ คาดจะมีโครงการใหม่ออกสู่ตลาด ประมาณ 1-1.2 หมื่นยูนิต แต่ยังคง ต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบกับผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่ได้เร่งเปิดขายโครงการใหม่ กันมากนัก และยังคงมองเรื่องของกำลังซื้อ ที่เริ่มฟื้นตัว ปัจจัยเรื่องของวันหยุดยาวที่ต่อเนื่องในช่วงสงกรานต์ และ เดือน พ.ค. วันหยุดภาคเรียนของนักเรียน และการเปิดเทอมใหม่ในช่วงปลายไตรมาส 2 เป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจ เพราะมีผลต่อ กำลังซื้อของกลุ่มผู้ซื้อที่มีลูกหลาน ในวัยเรียน โครงการคอนโดมิเนียมที่ เปิดขายใหม่ในไตรมาส 2 ของปีนี้ จึงอาจจะไม่ได้แตกต่างจากไตรมาส 2 ปีก่อนหน้าเท่าใดนัก