ESTAR ผุด เวลาน่า จับกลุ่ม X & Y ลุย EEC-กทม.เปิด 3 โครงการใหม่
Loading

ESTAR ผุด เวลาน่า จับกลุ่ม X & Y ลุย EEC-กทม.เปิด 3 โครงการใหม่

วันที่ : 7 เมษายน 2561
ESTAR ผุด เวลาน่า จับกลุ่ม X & Y ลุย EEC-กทม.เปิด 3 โครงการใหม่

อีสเทอร์น สตาร์ (ESTAR) ลุยปั้นแบรนด์น้องใหม่ เวลาน่า (VELANA) จับกลุ่มคนรุ่นใหม่Gen X & Y เปิด 3 โครงการทำเล บ้านฉางโซน EEC และ กทม.ประเดิมเปิดโครงการแรก "Velana Golf House" บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จ.ระยอง ติดสนามบินอู่ตะเภา ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท กลุ่มลูกค้า ผู้บริหารบริษัท, แพทย์, นักบิน, วิศวกร

ดร.ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปี 2561 ว่า บริษัทมั่นใจว่าปีนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะไป ได้ดี จึงตัดสินใจเปิดแบรนด์ใหม่ เวลาน่า (VELANA) จับกลุ่มลูกค้า Gen X & Y เป็นคนทำงานในระดับผู้บริหารรุ่นใหม่มีอายุตั้งแต่ 35-45 ปี โดยประเดิมเปิดตัวโครงการแรกภายใต้ชื่อโครงการ "Velana Golf House" บ้านเดี่ยว 2 ชั้น อยู่ภายในสนามกอลฟ์อีสเทอร์น สตาร์ แอนด์ รีสอร์ท อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ติดสนามบินอู่ตะเภา ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท ออกแบบในสไตล์ Modern Contemporary ที่มีความสวยงามทันสมัย มีความเป็นส่วนตัว ซึ่งวางระบบสายไฟฟ้าใต้ดินทั้งโครงการ พร้อมสโมสรและสระว่ายน้ำเต็มรูปแบบ จำนวน 98 หลัง บนพื้นที่ 24 ไร่ มีพื้นที่ใช้สอยของตัวบ้าน 164,191 และ 242 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 3.9 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโครงการจะเป็นเจ้า ของกิจการ ผู้บริหารบริษัท, แพทย์, นักบิน, วิศวกรหรือผู้จัดการโครงการต่างๆ ที่ทำ งานในจังหวัดระยอง รวมถึงชาวต่างชาติที่พักอาศัยในบริเวณนี้

ส่วนอีก 2 โครงการ เป็นการพัฒนาในพื้นที่กรุงเทพฯ ย่านสุขุมวิท-พัฒนาการ ในรูปแบบของคอนโดฯโลว์ไรส์ จำนวน 300-400 ยูนิต 1 โครงการ และแนวราบ 1 โครงการ แต่ละโครงการจะมีมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ราคาขายตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้น ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะทยอยเปิดในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ นอกจากนี้ ได้เตรียมทุ่มงบในการซื้อที่ดินในกรุงเทพฯ และระยองไว้อีกกว่า 2,000 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโครงการใหม่ๆ ต่อเนื่อง

"เวลาน่า มีเป้าหมายตอบโจทย์ลูกค้าในระดับกลาง-บน โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลาง อาทิ ใช้พื้นที่ส่วนกลางให้เป็นส่วนเรียนรู้ให้กับเด็กๆ การแชร์พื้นที่ใช้สอยร่วมกัน ในรูปแบบ Co-Working Space หรือ Co-Locker เพื่อให้ลูกบ้านของอีสเทอร์น สตาร์ ได้สัมผัสกับชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม" ดร.ต่อศักดิ์ กล่าว

สำหรับในปีนี้ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,600 ล้านบาท เติบโต 50% จากปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 1,026 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เท่ากับปีที่ผ่านมา แม้ปีก่อนบริษัทมีรายได้ที่สูงกว่าเป้าหมาย 2,000 ล้านบาท เป็น 2,500 ล้านบาทก็ตาม

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและโอนกรรมสิทธิ์อยู่ทั้งสิ้น 6 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม ณ สิ้นปี 2560 ราว 8.9 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ 3 โครงการ ได้แก่ Star View ริมน้ำ ย่านพระราม 3, Nara 9 แยกสาทร-นราธิวาส, Amber Condo ติดรถไฟฟ้าสถานีแยกติวานนท์ และโครงการบ้านเดี่ยวในเขตพื้นที่อำเภอบ้านฉาง จ.ระยอง จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ Vintage Home Village 3, Hamlet 3, Sinthavee Garden 2 รวมทั้งมีหน่วยธุรกิจซีสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ บริการบ้านเดี่ยวและอพาร์ตเมนต์ให้เช่า และบริการโรงแรม ซึ่งตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของสนามกอลฟ์ อีสเทอร์น สตาร์ แอนด์ รีสอร์ท ติดสนามบินอู่ตะเภา

ดร.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาฯ ในปีนี้ถือว่าเอื้อต่อการรุกขยายธุรกิจของ ESTAR เป็นอย่างยิ่ง ทั้งเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวก็ยังขยายตัวได้ดี การลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐก็ ยังคงเดินหน้าต่อ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ ทางด่วนเชื่อมวงแหวน ไปจนถึงโครงการ EEC ที่มีความชัดเจนมากขึ้นในด้านผังเมืองและแผนการพัฒนาด้านการคมนาคม ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสและเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ในจังหวัดระยอง ในขณะที่ตลาดผู้บริโภคระดับกลาง-บน ก็ยังตอบรับการเปิดตัวสินค้าที่อยู่อาศัย ใหม่ในอัตราที่ดี นักลงทุนรายย่อยจากต่างชาติ โดยเฉพาะจีนยังให้ความมั่นใจในเศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯ ของไทย ไปจนถึงกระแส Aging Society ที่ส่งผล ให้สินค้าอสังหาฯ สำหรับผู้สูงอายุได้รับความสนใจมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็น ปัจจัยสนับสนุนการลงทุนต่อเนื่องของบริษัททั้งสิ้น ดร.ต่อศักดิ์ กล่าวในที่สุด

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ