อนันดาฯ ทุ่ม3.5หมื่นล้าน5ปีรุกตลาดอสังหาฯให้เช่า
Loading

อนันดาฯ ทุ่ม3.5หมื่นล้าน5ปีรุกตลาดอสังหาฯให้เช่า

วันที่ : 29 มีนาคม 2561
อนันดาฯ ทุ่ม3.5หมื่นล้าน5ปีรุกตลาดอสังหาฯให้เช่า

อนันดาฯรุกธุรกิจ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ วางแผนลงทุน 3.5 หมื่นล้าน เปิด 14 โครงการใน 5 ปี ผนึกเชนโลก "แอสคอทท์"บริหารโครงการ นำร่องปีนี้ เปิด 4 แห่งมูลค่าหมื่นล้าน ด้านผู้บริหาร ดิ แอสคอทท์มั่นใจตลาดเช่าไทยเติบโตจากต่างชาติ-นักท่องเที่ยวเข้าไทยพุ่ง

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการรุกเข้าสู่ธุรกิจเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ โดยผนึกเชนบริหารระดับโลก ดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด (The Ascott Limited) เข้ามาบริหารสินทรัพย์ดังกล่าว เนื่องจากต้องการขยายฐานรายได้ประจำ เพื่อสร้างรายได้ ต่อเนื่อง นอกเหนือจากการลงทุนโครงการบ้านจัดสรร ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียมที่ ธุรกิจเปลี่ยนแปลงตามเศรษฐกิจ ขณะที่ ราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้น  โดยธุรกิจอสังหาฯให้เช่า ประกอบด้วย เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โรงแรม  ค้าปลีก  และสำนักงานให้เช่า

โดยบริษัทตั้งเป้าจะลงทุนด้านเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ทั้งหมดมี 14 โครงการ โดยมีมูลค่าลงทุนโครงการ 2,500 ล้านบาท รวมมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท ภายใน 5 ปี  โดยปีนี้ เตรียมเปิดตัว 4 โครงการ มูลค่า 10,000 ล้านบาท จำนวน 1,400 ยูนิต ประกอบด้วย โครงการ ซัมเมอร์เซ็ท รามา 9 บางกอก มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท จำนวน 445 ยูนิต รวมไปถึงโครงการ แอทคอทท์ ทองหล่อ  โครงการ แอสคอทท์ สาธร และ ไลท์ สุขุมวิท 8  ที่จะส่งผลทำให้รับรู้รายได้จากยอดโอนจาก 4 โครงการ มูลค่า 1,500 ล้านบาท หลังจากนั้นจะทยอยนำสินทรัพย์เข้าไปจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(Real Estate Investment Trusts : REITs หรือรีทส์)ในปีเดียวกัน

โดยรายได้จาก 4 โครงการจะคิดเป็นสัดส่วน 4%ของรายได้ทั้งหมดในกลุ่มธุรกิจอนันดา ภายใน 3 ปี หรือในปี 2564 จะมีรายได้ ประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท โดยมีรายได้ รอรับรู้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาทใน 3 ปี ข้างหน้า ราคาเช่าเฉลี่ยอยู่ 2,500-3,000 บาท ต่อวัน

นายชานนท์ ยังกล่าวว่า สาเหตุที่เลือก แอสคอทท์ เข้ามาเป็นพันธมิตรบริหาร เพราะเป็นเบอร์หนึ่งด้านเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ของโลกที่มีเครือข่ายการบริหารเซอร์วิส ที่เป็น กลุ่มลูกค้าองค์กรต่างๆ เกือบ 100,000 ราย มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการทำตลาด และการพัฒนาเครือข่ายในการขาย มีรายได้จากตลาดเช่าที่มั่นคง และมีการกระจายความรายได้ ไปยังตลาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในอนาคต

"เราศึกษาร่วมกันกับแอสคอทท์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ทางธุรกิจมานาน จนถึงจุดมั่นใจและน่าลงทุน และแอสคอทท์ก็เป็นเบอร์หนึ่งด้านการบริหารเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ระดับโลก ที่จะส่งผลทำให้มีรายได้สม่ำเสมอในตลาดเช่าหลังจากที่เข้าไปปักธงพัฒนาคอนโด มายาวนาน เราอยู่ในยุคที่เติบโตมาเรื่อยๆ ถึงจุดหนึ่งในระยะยาว รายใหญ่ทั่วไป มักมี การกระจายรายได้ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โรงแรม อาคารพาณิชย์ และสำนักงานให้เช่า"

ด้านนายเควิน โกห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิ แอสคอทท์ จำกัด กล่าวว่า ทางกลุ่มธุรกิจได้ลงนามความตกลงร่วมกัน (MOU) 14 โครงการภายในปี 2566 โดยเฉลี่ยเปิดโครงการใหม่ 2-3 แห่งต่อปี โดยตลาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในไทย และในเอเชีย ถือว่ามีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยเฉพาะในไทยมีอัตรานักท่องเที่ยว และกลุ่มต่างชาติเข้ามาทำงานมากขึ้น รวมถึงกลุ่มพักระยะยาว ที่ในกลุ่มแอสคอทท์ มีลูกค้าในเครือข่ายพักเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 6 เดือน -1 ปี ที่ส่งผลมีการตั้งเป้ายอดการเข้าพักเฉลี่ย 80-90%ตลอดปี

ทั้งนี้ กลุ่มแอสคอทท์ มีพันธมิตรในกลุ่มลูกค้าองค์กร และมีเครือข่ายอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุม 130 แบรนด์ใน 30 ประเทศ ทั้งในเอเชีย โดยเฉพาะในจีน และในญี่ปุ่น ซึ่งสามารถขายข้ามไปมาระหว่างกันในเครือข่ายได้ จึงทำให้ยอดการจำหน่ายห้องพัก คงที่และมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยภายหลังการเข้าไปรับบริหารเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ใหม่ให้กับเครืออนันดา ทั้ง 4 โครงการ นี้จะช่วยเพิ่มผลงานของ แอสคอทท์ ในไทยมากขึ้นเป็น 21 แห่ง หรือกว่า 4,300 ยูนิตทั่วกรุงเทพฯ พัทยา และศรีราชา

โดยขณะนี้ดิ แอสคอทท์ มีโครงการที่พักอาศัยให้บริการอยู่มากกว่า 43,000 แห่ง ในเมืองสำคัญต่างๆ ในอเมริกา เอเชีย แปซิฟิก ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา และมีมากกว่า 29,000 ยูนิต ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา ทำให้มีจำนวนโครงการทั้งหมดรวมกว่า 74,000 ยูนิต ในมากกว่า 500 แห่ง จาก 6 แบรนด์ในเครือ ประกอบด้วย แอทคอทท์,  ซีคาดีนส์ ,ซัมเมอร์เซ็ท,เควส,เดอะ เครสท์ คอลเล็คชั่นและไลท์

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ