อสังหาฯ จับตา 'แบงก์' ตอบรับลดดอกเบี้ยตาม กนง. หวั่นช้า-ลดไม่ถึง 25 สตางค์
วันที่ : 1 พฤษภาคม 2568
สมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า สำหรับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การลดดอกเบี้ยถือว่าช่วยลดภาระต้นทุนการเงิน การพัฒนาโครงการและลดภาระการผ่อนชำระของลูกค้าได้ด้วย แต่ถ้าจะให้ดีธนาคารจะต้องปล่อยกู้ให้มากขึ้นควบคู่กันไปด้วย
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% หรือ 25 สตางค์ จาก 2.00% เหลือ 1.75% และมีผลในทันที ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีนโยบายการเงินเข้ามาช่วยบรรเทาภาระของภาคธุรกิจและประชาชนด้วย แต่อย่างไรก็ตามต้องดูสถาบันการเงินต่างๆด้วยว่าจะตอบรับปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเท่ากับดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ โดยเฉพาะดอกเบี้ย MLR ที่มีผลโดยตรงต่อภาคเอกชนและMRR ที่มีผลโดยตรงต่อภาคประชาชน เนื่องจากครั้งที่ผ่านมาปรับลงต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบาย และขณะเดียวกันก็ต้องปรับลดดอกเบี้ยลงในทันทีเช่นกันและไม่ล่าช้าเหมือนครั้งที่แล้วกว่าจะปรับลดต้องใช้เวลาหลายวั
นายประเสริฐกล่าวว่า นอกจากนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ก็ต้องส่งสัญญาณให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้ง่ายขึ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง เพราะถ้ายังปล่อยกู้ยาก แม้จะลดดอกเบี้ยให้ก็ไม่มีความหมาย ซึ่งขณะนี้สภาพคล่องถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเดินหน้าธุรกิจ เนื่องจากมีผลกระทบจากแผ่นดินไหว ภาษีของทรัมป์ และตลาดหุ้นกู้ที่ได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่น โดยเฉพาะหุ้นกู้ที่จะกำหนดชำระคืนในเร็วๆนี้
"การที่มูดี้ส์ได้ปรับลดมุมมองของภาวะเศรษฐกิจประเทศไทยลงเป็นเชิงลบนั้น ยังเป็นแค่มุมมอง แต่ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าเราต้องเร่งปรับตัวและดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเร็ว ซึ่งต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจบ้านเรามีปัญหาเชิงโครงสร้างที่ย่ำแย่ และจีดีพีเราต่ำมานานเช่นกัน ซึ่งปีนี้มองว่าจีดีพีคงโตไม่ถึง 2% และคงไม่เกี่ยวกับการที่รัฐบาลกำลังจะกู้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวงเงิน 5 แสนล้านบาท โดยส่วนตัวเห็นด้วยที่จะอัดเม็ดเงินกระตุ้น แต่ต้องเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ละเซ็กเตอร์อย่างแท้จริง และใช้ในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ไม่ใช่นำมาแจกเหมือนเดิม"นายประเสริฐกล่าว
นายประเสริฐกล่าวว่า สำหรับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การลดดอกเบี้ยถือว่าช่วยลดภาระต้นทุนการเงิน การพัฒนาโครงการและลดภาระการผ่อนชำระของลูกค้าได้ด้วย แต่ถ้าจะให้ดีธนาคารจะต้องปล่อยกู้ให้มากขึ้นควบคู่กันไปด้วย ประกอบกับมี 2 มาตรการจากรัฐบังคับใช้แล้ว ทั้งลดค่าโอนและจำนองเหลือ 0.01% กับผ่อนเกณฑ์ LTV ให้กู้ได้ 100% มีผลวันที่ 1 พฤษภาคม คาดว่าน่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้บ้าง คงต้องรอผ่านเดือนพฤษาคมและไตรมาสสองนี้ไปก่อนว่าจะดีขึ้นหรือไม่ หลังไตรมาสแรกสถานการณ์ยงไม่ดีทั้งยอดขายและยอดโอนปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ