แสนสิริ ผนึกพันธมิตรรุกเปิด อี-วอลเลท ปีนี้
แม้ว่าผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ต่างหันมาชู จุดแข็งเทคโนโลยีดิจิทัลในการบริการ หวังดูดใจลูกค้าเต็มสูบ แต่ลูกเล่นใหม่ๆ ที่นำมาใช้งานได้ก็ยังมีอีกมาก ล่าสุด "บมจ.แสนสิริ" ประกาศผนวกพันธมิตร เปิดแพลตฟอร์ม "ซื้อขาย" รอรับการ เปิดตัว "อี-วอลเลท" ภายใต้แบรนด์ตัวเอง ในปีนี้
ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธาน ผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี บริษัท แสนสิริจำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ตั้งแต่ ต้นปี 2559 เริ่มลงทุนเทคโนโลยีเพื่อมาใช้ บริการลูกค้าเต็มรูปแบบ ทำให้จาก 300 โครงการของแสนสิริมีทั้งหมด 154 โครงการ 52,000 ยูนิตที่ใช้ "เซอร์วิสเทคโนโลยี" เป็นองค์ประกอบหลักโดย ทุกโครงการใหม่ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา จะมีบริการเหล่านี้ครบ ไม่ว่าจะเป็นโครงการแนวสูงหรือแนวราบในทุกเซกเมนต์
แม้ว่าเม็ดเงินในการลงทุนจะสูง แต่เมื่อคำนวณกลับมาเป็นต้นทุนของผู้ซื้อ ถือว่าเป็นภาระค่าใช้จ่ายไม่ได้สูงขึ้นอย่างมี นัยสำคัญ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ราว 1 หมื่นบาท แต่สิ่งที่ตอบกลับมาเป็นสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่พัฒนาต่อเนื่อง และยังนำพันธมิตร มาร่วมนำเสนอบริการในแพลตฟอร์มเป็นพิเศษ สำหรับลูกบ้านผ่านแอพพลิเคชัน "โฮม เซอร์วิส" ที่เปิดตัวเวอร์ชั่น 2018
ปัจจุบันแอพพลิเคชันนี้ใช้งานแบบ แอคทีฟ 1.5 หมื่นคนและปลายปีนี้ ตั้งเป้าให้ใช้งานถึง 5 หมื่นคน เนื่องจาก ได้อัพเกรดให้ครอบคลุมการใช้งานและ เปิดตัวฟังก์ชั่นสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ใช้งานได้จริงเป็นรายแรกของไทย เช่น สามารถสั่งการเปิดปิดไฟภายในห้องได้ ในอนาคตยังมองไปถึงการใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น เช่น เซนเซอร์ที่ช่วยปิดประตู-หน้าต่างซึ่งจะเป็นประโยชน์กรณีที่ลืมดูแลความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน
"การเข้าใช้บริการแอพพลิเคชั่นของ แสนสิริ จะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่มีการจองและติดตามความคืบหน้าของโครงการไปจนถึงการโอนและเข้าอยู่อาศัย โดยผู้ซื้อสามารถใช้บริการเองรวมถึงให้สิทธิในกรณีที่ปล่อยให้เช่าเช่นกัน"
นอกจากนั้น ในช่วงไตรมาส 3 ของ ปีนี้จะเปิดตัวอี-วอลเลทบนแอพพลิเคชัน โดยร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ที่มี ใบอนุญาตในการประกอบการอยู่แล้วในชื่อ"แสนสิริ อี-วอลเลท" เพื่ออำนวยความสะดวกในการเป็นเพย์เมนต์เกตเวย์ให้ ผู้ใช้บริการในแห่งเดียว อาทิ จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง ผ่อนคอนโด รวมถึงการ ซื้อขายสินค้าและบริการต่างๆที่แสนสิริ นำมาร่วมเพิ่มเติมในปีนี้
สำหรับพันธมิตรที่เข้าร่วมจะนำเสนอสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ ของการอยู่อาศัย โดยนำเทคโนโลยี มาเสริมให้สะดวกมากขึ้นแบบเบ็ดเสร็จบนแอพพลิเคชันเดียว เช่น เอสบีเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ลูกค้าสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบเฉพาะเพื่อคอนโดมิเนียมได้ผ่าน แอพพลิเคชั่นของแสนสิริ เทรนดี้วอช ที่ตรวจสอบสถานะการซักผ้าของเครื่องซักผ้าภายในโครงการว่าเครื่องว่าง พร้อมใช้งานหรือไม่ และระบบใช้เงินดิจิทัลแทนการหยอดเหรียญพร้อมกับแจ้งเตือนเมื่อเครื่องซักผ้าทำงานเสร็จซึ่งนำร่องให้บริการแล้วใน 10 โครงการรวมถึงการสั่ง น้ำดื่มจากสปริงเคิลที่มีบริการจัดส่งถึงบ้าน, สั่งซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าจากซัมซุงและเครื่องใช้ ในบ้านจากเอสซีจี เป็นต้น
ทวิชา กล่าวว่า แอพพลิเคชันใหม่ จะกระตุ้นให้ผู้ใช้งานหันมาใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าถึง Sharing Economy หรือบริการส่วนกลางต่างๆ เริ่มตั้งแต่ ระบบความปลอดภัยที่ใช้สำหรับเข้าออกอาคาร การจองบริการห้องสมุด ห้องครัวส่วนกลาง เป็นต้น
ขณะที่โครงการเก่าๆ ที่เกิดขึ้นก่อนที่แสนสิริจะวางกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ก็จะนำเสนอแผน"โฮมอัพเกรด"ให้กับเจ้าของที่อยู่อาศัยในโครงการที่ต้องการติดตั้ง ระบบออโต้เมชั่นและใช้แอพพลิเคชันเต็มรูปแบบโดยเสนอเป็นโฮมคิทในราคาเฉลี่ยหลักหมื่นบาทเตรียมเปิดตัวภายในปีนี้เช่นกัน
จิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริเวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า การพัฒนาบริการในแอพพลิเคชันมีอยู่ 5 เรื่อง ได้แก่ การเข้าถึงระบบโฮมออโตเมชั่น การจองบริการ ส่วนกลาง การตรวจสอบค่าน้ำ-ค่าไฟ การตรวจสอบพัสดุที่ส่งมาถึงและการแจ้งซ่อมแซมต่างๆ แต่ปัจจุบันระดับการใช้งาน ของลูกค้ายังเป็นการเข้ามาดูข้อมูลทั่วไป เช็คพัสดุหรือแชทกับนิติบุคคลเป็น ส่วนใหญ่ ดังนั้นเมื่อมีการพัฒนาเต็มรูปแบบ และรวมในโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เชื่อว่าจะผลักดันการใช้งานให้เพิ่มขึ้นได้
โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีเอไอมาใช้เช่นต่อไปจะมีการจดจำสิ่งของจากภาพถ่ายในครั้งแรกและหากมีการแจ้งซ่อม สิ่งนั้นในภายหลังก็จะระบุถึงความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ทันทีหรือกระทั่งการนำแชทบอท มาตอบปัญหาต่างๆ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ใช้ เต็มร้อย
อนาคตยังมีแผนสร้างการเชื่อมโยง กับภาคการเงินและฟินเทคเพื่อให้บริการต่างๆเช่นการขอสินเชื่อบ้านการรีไฟแนนซ์การทำประกันที่อยู่อาศัยตลอดจนการ พัฒนาให้โฮมเซอร์วิสเป็นโอเพ่นแพลตฟอร์มที่สามารถนำไปใช้กับผู้พัฒนาอสังหา ริมทรัพย์รายอื่นๆ ได้
ด้านพิเดช ชวาลดิฐ รองกรรมการ ผู้จัดการบริษัทเอสบี เฟอร์นิเจอร์ จำกัด กล่าวว่า การนำเสนอสินค้าผ่านแพลตฟอร์มแอพพลิเคชันของแสนสิริจะนำสิ่งที่ ออกแบบเพื่อความเหมาะสมกับคอนโดโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เน้นความสะดวกเช่นการซื้อเพื่อปล่อยเช่าลูกค้าอาจจะไม่เน้นต้องใส่ใจรายละเอียดด้วยการมา ดูเองที่โชว์รูมแต่เน้นความรวดเร็วใน การซื้อและมาติดตั้งให้เหมาะสมมากกว่าดังนั้นบริการที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตร กับแสนสิริจึงเน้นเรื่องความคุ้มค่าเงินเป็นหลักมากกว่าโปรโมชั่นเรื่องการลดราคาพิเศษ