ดุสิตธานี ทุ่มกว่า 600 ล้าน ตั้ง ดุสิต ฟู้ดส์ รุกขยายสู่ธุรกิจอาหาร
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC กล่าวว่า บริษัทมีผลการดำเนินงานประจำปี 2560 สามารถทำรายได้รวม 5,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% และมีกำไรสุทธิ 267 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134% จากปีก่อน โดยที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัทได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงิน ปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2560 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.158 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 20 มีนาคม 2561 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 พฤษภาคม 2561
ทั้งนี้ ล่าสุด คณะกรรมการ บริษัทได้มีมติจัดตั้งบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อขยายการลงทุนไปยังธุรกิจอาหาร ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของดุสิตธานี และเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตทั้งนี้ หลังจากการจัดตั้งบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมนี้ บริษัทดังกล่าวจะเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เอ็นอาร์ อิน สแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (NRIP) ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและจำหน่ายสินค้าที่เป็นอาหารแห้ง ส่วนผสมของอาหาร และเครื่องปรุงรสแบบต่างๆ ให้กับลูกค้าที่เป็นบริษัทข้ามชาติชั้นนำ ในประเทศ และลูกค้าทั้งในยุโรปอเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศ อื่นๆ ตลอดจนผลิตและจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเอง อาทิ พ่อขวัญ, Lee, Thai Delight, DEDE, และ Shanggie โดยบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 26% คิดเป็นมูลค่าลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 660 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนในธุรกิจอาหารครั้งนี้ นับเป็นการลงทุนนอก ธุรกิจโรงแรมเป็นครั้งแรกของดุสิตธานี และเป็นการขับเคลื่อนการลงทุนต่อเนื่อง จากโครงการพัฒนาอสังหา ริมทรัพย์รูปแบบผสม (Mixed-use Project) ซึ่งเป็นการตอกย้ำกล- ยุทธ์ทั้ง 3 ด้านของดุสิตธานีที่วางไว้ นั่นคือ การขยายการเติบโต การ กระจายความเสี่ยง และสร้างความสมดุล เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับบริษัทในระยะยาว
"เรามองเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจอาหาร ซึ่งจะช่วยสนับสนุนและเอื้อกับธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เพราะดุสิตธานีมีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้อยู่แล้ว เรามุ่งหวังว่า การเข้าลงทุนในบริษัทเอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ ของดุสิต ฟู้ดส์ นอกจากจะสร้างรายได้เพิ่มเติมในอนาคตให้กับดุสิตธานี แล้ว ยังสามารถต่อยอดในการผลิตสินค้าและอาหารที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน ภายใต้แบรนด์ดุสิตให้ ออกสู่ตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยอาจจะดำเนินการพัฒนาแบรนด์ร่วมกันระหว่างดุสิต ฟู้ดส์และ NRIP ในอนาคต ซึ่ง บริษัทจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบ ต่อไป"
นางศุภจี กล่าวต่อว่า การลงทุนดังกล่าวจะทำให้พอร์ตการลงทุนของดุสิตธานีแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินงานระยะยาวของบริษัทที่กำหนดไว้ 5 แนวทาง ได้แก่ 1.บริหารจัดการทรัพย์ สินที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมเมื่อเปรียบเทียบกับตลาด 2. ขยายฐานธุรกิจด้านการรับบริหารโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มรายได้ 3.แสวงหาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อกระจายความเสี่ยง 4. ขยายฐานลูกค้าและสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ "ดุสิตธานี" เพื่อให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่จดจำรวมทั้งขยายช่องทางการตลาด และ 5. เสริมสร้างทีมงานบริหารและปฏิบัติการให้มีความเข้มแข็งเพื่อรองรับแผนการขยายธุรกิจ