ไทคอน ทุ่มหมื่นล.ขยายธุรกิจ ฟุ้งมีที่ดินเปล่าเขตอีอีซี1.5พันไร่
นายวีรพันธ์ พูลเกษ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON กล่าวว่า ไทคอนในฐานะผู้นำตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมแบบครบวงจรในอาเซียน ดำเนินธุรกิจในการส่งมอบอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม ทั้งโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า จากผลประกอบการรวมกว่า 2,086 ล้านบาท โดยมียอดกำไรสุทธิ 482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73% จากปี 59 โดยมีลูกค้า อาทิ แอมเวย์ วัตสัน ลอรีอัล เนสท์เล่ย์ ดีเอชแอล ดีเคเอสเอช ลาซาด้า แม็คโคร ฟอร์ด มิตซูบิชิ บีเอ็มดับเบิลยู ไทยเบฟเวอเรจ บิ๊กซี เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ เป็นต้น
นายวีรพันธ์ กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทได้ทุ่มงบลงทุน 10,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เน้นการลงทุนในประเทศ มีเป้าหมายจะขยายธุรกิจใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อหวังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมดังกล่าวในอาเซียนภายใน 3 ปี ซึ่งในอนาคตคลังสินค้า จะใช้คนน้อยที่สุดเพราะแรงงานคนหายาก และค่าแรงแพง ต้องนำเทคโนโลยีมาบริหารจัดการคลังสินค้า ขณะเดียวกันการขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ เติบโต ดังนั้นอาคารของคลังสินค้าต้องคุยกับ ผู้ประกอบการได้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมีลูกค้าสั่งสินค้ามาทางออนไลน์ สามารถตรวจสอบยอดจากคลังสินค้าได้ทันที หากพบว่าไม่สามารถสั่งออร์เดอร์ไปยังโรงงานผลิตสินค้าได้ จากโลจิสติกส์แจ้งไปยังโรงงานได้เลย
นอกจากนี้ตัวอาคารต้องปรับให้การขนส่งมีความคล่องตัว คลังสินค้าแบบเดิมที่มีระบบยกตู้คอนเทเนอร์จะใช้น้อยลง ตัวอาคารคลังสินค้า ปรับให้รถกระบะ รถมอเตอร์ไซค์ มารับสินค้ายังคลังสินค้าได้เลย เพราะการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ลูกค้าต้องการความรวดเร็ว ซึ่งไทคอนจะลงทุนเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น จะทำให้ปรับราคาค่าเช่าคลังสินค้าได้ ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าออนไลน์อย่างเว็บไซต์ Shopee มาใช้บริการคลังสินค้า ไทคอนตั้งเป้าหมายจะเพิ่มอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy rate) เป็น 85% ภายในปี 63 จากปัจจุบันที่มีอยู่ 69% นอกจากนี้ยังมีแผนขยายพื้นที่ทั้งประเทศไทยและต่างประเทศ โดยในประเทศไทยวางแผนขยายการพัฒนาเพิ่มเติมในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)
ด้าน นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทคอนมีแผนลงทุนในพื้นที่อีอีซี เพราะมีอาคารคลังสินค้าครอบคลุมพื้นที่อีอีซีทั้งหมด 500 อาคาร ยังไม่รวมที่ดินเปล่า 1,500 ไร่ ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา และยังมีที่ดินของบริษัท ในเครือประมาณ 1,000 กว่าไร่ มองเรื่องคลังสินค้าเรื่องยา เวชภัณฑ์ และชิ้นส่วนยานยนต์ สนใจบริษัทต่างประเทศที่มีซัพพลายเออร์อยู่ในเมืองไทย