อสังหาฯลุยลงทุนดันดัชนีบริการพุ่ง ม.ค.61ขยายตัว113.7ต่อเนื่องเดือนที่13 สนค.มองทั้งปีไปโลดตามศก.ฟื้นทั่วโลก
Loading

อสังหาฯลุยลงทุนดันดัชนีบริการพุ่ง ม.ค.61ขยายตัว113.7ต่อเนื่องเดือนที่13 สนค.มองทั้งปีไปโลดตามศก.ฟื้นทั่วโลก

วันที่ : 2 มีนาคม 2561
อสังหาฯลุยลงทุนดันดัชนีบริการพุ่ง ม.ค.61ขยายตัว113.7ต่อเนื่องเดือนที่13 สนค.มองทั้งปีไปโลดตามศก.ฟื้นทั่วโลก

ดัชนีภาคบริการ ม.ค.61 ขยายตัวเป็นเดือนที่ 13 ระดับ 113.7 เพิ่มขึ้น 9.2% ปัจจัยหนุนหลักคือนิติบุคคลเพิ่มทุน หุ้นภาคบริการโตดี อสังหาฯนำโด่งโตสูงสุด 24% ก่อสร้างเริ่มเร่งตัว แต่จ้างงานยังหดตัว

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงดัชนีภาวะการค้าภาคบริการของไทยเดือนมกราคม 2561 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน อยู่ที่ระดับ 113.7 สูงขึ้น 9.2% จากช่วงเดียวกันปี 2560 แต่มีอัตราชะลอลงจากเดือนธันวาคม 2560 ขยายตัว 11.9% โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ขยายตัวเกิดจากจำนวนนิติบุคคลจดทะเบียนเพิ่มทุนในสาขาบริการมากขึ้น และดัชนีราคาหุ้นภาคบริการในตลาดหลักทรัพย์ขยายตัวเร่งขึ้น ขณะที่ปัจจัยที่ลดลง เช่น จำนวนนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งใหม่สุทธิ และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศภาคบริการ

น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า เมื่อพิจารณาภาคบริการในรายสาขาพบว่าขยายตัวเกือบทั้งหมด สาขาที่ขยายตัวเร่งขึ้น ได้แก่ การก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ กิจกรรมวิชาชีพวิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ และการศึกษา ส่วนสาขาที่ขยายตัวแต่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า มี 7 สาขา คือการขายส่งและการขายปลีก การซ่อม ยานยนต์และจักรยานยนต์ การขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร กิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย กิจกรรมด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์ และศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ ขณะที่สาขาหดตัวมีเพียง 2 สาขา คือกิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน และกิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ

น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า ในเดือนมกราคม 2561 ภาคบริการที่น่าสนใจ คืออสังหาฯเติบโตสูงสุด 24% ขณะที่สาขาก่อสร้างเริ่มขยายตัวมากขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.9% เห็นได้จากการเพิ่มขึ้นชัดเจนของทุนจดทะเบียนของนิติบุคคลในธุรกิจก่อสร้าง แม้ว่าการจ้างงานจะยังหดตัว เป็นต้น ส่วนสาขาการขายส่งและ ขายปลีก ขยาย 5.5% แต่ชะลอลง 15.9% ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากมีการเร่งขยายการลงทุนในช่วงปีที่ผ่านมาเพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

"ปัจจัยตัวชี้วัดต่างๆ เพิ่มขึ้นเกือบทุกตัว เช่น จำนวนนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งใหม่สุทธิ มูลค่าทุนจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่สุทธิ และมูลค่าทุนจดทะเบียนนิติบุคคลเพิ่มทุน นอกจากนี้ ดัชนีราคาหุ้นสาขาการขายส่งและขายปลีก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคการค้าและบริการคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าขยายตัวดี สะท้อนถึงภาพรวมสาขาการขายส่งและขายปลีกยังมีแนวโน้มขยายตัวดี ขณะที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งส่วนมากเป็นธุรกิจเอสเอ็มอีพบว่าผู้ประกอบการรายเดิมมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนนิติบุคคลมากขึ้น แต่ผู้ประกอบใหม่ยังมีการจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ค่อนข้างน้อย" น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว และว่า เศรษฐกิจฐานรากมีการขยายตัวในภาคบริการ ส่วนสาขาการขนส่งพบว่าการขยายตัวของธุรกิจกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการค้าและการส่งออก ซึ่งยืนยันว่าการส่งออกของไทยยังไปได้อย่างเข้มแข็ง

น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวถึงแนวโน้มภาวะการค้าภาคบริการปีนี้ว่า จะขยายตัวได้ต่อเนื่องตามการฟื้นตัวอย่างชัดเจนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศ สำหรับสาขาบริการที่มีศักยภาพ และแนวโน้มขยายตัวได้ดี ได้แก่ สาขาอสังหาริมทรัพย์ สาขาบริการทางการเงิน สาขาสุขภาพ สาขาขายส่งและการขายปลีก และสาขาก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม มีประเด็นต้องติดตามคือการจ้างงาน ในเดือนมกราคม 2561 ขยายตัว 8.3% ถือว่าน่าพอใจแต่อยากให้ขยายตัวได้มากขึ้น เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ