ธุรกิจบ้านออกหุ้นกู้สร้างพอร์ต
วงการชี้ ที่แบงก์ชาติระบุอสังหาฯ ระดมทุนออกหุ้นกู้จำนวนมาก เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง เผยต้นทุนดอกเบี้ยสูงไม่กระทบกำไร และราคาบ้าน
นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกังวลภาคเอกชนเริ่มกลับมาออกตราสารหนี้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรืออันเรตบอนด์มากขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นตราสารหนี้ ระยะสั้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่มีฐานะการเงินเข้มแข็งว่า หลายปีที่ผ่านมาบริษัทอสังหาฯ ขนาดใหญ่นิยมออกตราสารหนี้กันมากขึ้น เพื่อระดมทุนมาก่อสร้างโครงการแทนการกู้เงินจากสถาบันการเงิน แม้อัตราดอกเบี้ยจะ สูงกว่าแต่คล่องตัวมากกว่า โดยอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับการจัดอันดับความ น่าเชื่อถือ (เครดิตเรตติ้ง) ของแต่ละบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทขนาดใหญ่ที่มีแบรนด์แข็งแกร่งมีความน่าเชื่อถือมากจะได้เปรียบจากการที่อัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่ารายกลางหรือเล็ก ซึ่งจะส่งผลต่อการ ทำกำไรของบริษัทได้มากขึ้น เพราะ เป็นการระดมทุนระยะสั้น 3-5 ปี ได้เงิน เป็นครั้งเดียวต่างจากแบงก์ที่ทยอยจ่าย ตามงานก่อสร้าง อย่างไรก็ดี เห็นว่า ต้นทุนดอกเบี้ยที่ต่ำหรือสูงไม่ได้ทำให้ราคา สินค้าถูกลง
ด้าน นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า การที่บริษัทอสังหาฯ โดยเฉพาะรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ระดมทุนจากการออกตราสารหนี้เป็นจำนวนมาก ไม่ได้กระทบต่อตลาดและผู้ซื้อ เนื่องจากมีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ควบคุมหากบริษัทนั้นมีปัญหาอยู่ภาวะเสี่ยง เช่น ผิดนัดชำระเงิน ฯลฯ จะสั่งหยุดการซื้อขายทันที
ขณะที่การจัดเรตติ้งจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือบวกกับการการันตีเรื่องของดอกเบี้ย ทำให้ผู้บริโภคกล้าเสี่ยงที่จะลงทุนซื้อหุ้นจากบริษัทเหล่านี้ อย่างไร ก็ดี ต้องดูอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของ บริษัทนั้นๆ อยู่ในเกณฑ์ใด ขณะเดียวกันการจัดอันดับเครดิตจะมีผลต่อการขาย หากอยู่ในอัตราต่ำสุดอาจใช้เวลาขาย นานขึ้น
"ดีเวลลอปเปอร์เลือกออกหุ้นกู้ เพราะได้เงินเร็วเต็ม 100% มีรอบหมุนต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะเป็นคอนโด เนื่องจากใช้เวลาก่อสร้างราว 3 ปี ต่างจากการขอกู้แบงก์ ซึ่งแบงก์จะเป็นผู้คุมในการจ่ายเงิน" นายสุรเชษฐ กล่าว