แอลพีเอ็น'รีแบรนด์-ปรับทีมบริหาร'ดันยอด
แอลพีเอ็นปรับแผนธุรกิจ ทั้งกลยุทธ์-รีแบรนดิ้ง-โครงสร้างบริหาร ดึงคนนอกเสริมแกร่ง ดันเป้ายอดขายปีนี้ 2 หมื่นล้าน เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ มูลค่ารวม 1.8 หมื่นล้าน
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทกำหนดให้เป็น "Year of Change: ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง" โดยจะเปลี่ยนแปลงใน หลายๆด้าน ทั้งกลยุทธ์การเพิ่มรายได้ที่เน้นขยายฐานรายได้จากธุรกิจหลัก ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง และการเพิ่มทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างคณะกรรมการ เปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหารที่ดึงคนนอก เข้ามาเสริมเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง
การพัฒนาบุคลากร การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อรองรับธุรกิจที่ เปลี่ยนแปลง และการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ที่จะว่าจ้างมืออาชีพเข้ามาดำเนินการคาดเห็นผลชัดเจนช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อรองรับแผนการเติบโตของแอลพีเอ็นและบริษัทในเครือในช่วง 3 ปี (ปี2561-2563) ผ่าน 2 กลุ่ม ธุรกิจหลักคือ กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาและกลุ่มธุรกิจบริการโดยตั้งเป้ารายได้กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาเติบโต 35-40% และรายได้จากกลุ่มธุรกิจบริการเติบโตยู่ที่ 20%
ปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นอาคารชุดพักอาศัย 17,000 ล้านบาท ประเภทบ้าน 3,000 ล้านบาท เป้ารายได้จาก การขาย 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นอาคารชุด พักอาศัย 10,500 ล้านบาท ประเภทบ้าน 1,500 ล้านบาท เป้าหมายจากการเปิดตัวโครงการใหม่ 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นอาคารชุดพักอาศัย 15,000 ล้านบาท ประเภทบ้าน 3,000 ล้านบาท
นายโอภาสกล่าวว่า บริษัทยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ในปี 2561 ประมาณ 5,900 ล้านบาท คิดเป็น 50 % ของเป้ารายได้รวม ณ สิ้นปี 2560 มียอดแบ็คล็อก 7,400 ล้านบาท
ขณะที่บริษัท พรสันติ จำกัด นั้นในปี 2561 เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 1 โครงการ รวมมูลค่าการขายประมาณ 850 ล้านบาท และได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2,000 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ แอลพีเอ็นเริ่มปรับองค์กรตั้งแต่ปีที่แล้ว ด้วยการแบ่งกลุ่ม 2 ธุรกิจ คือกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหา กำหนด เป้าหมายและกลยุทธ์ระยะสั้นเพื่อ ระบายสินค้าพร้อมอยู่ ซึ่งสามารถ ระบายได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท หรือประมาณ 50 % ของมูลค่าสินค้าพร้อมอยู่ทั้งหมด
ปี 2560 บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 1,062 ล้านบาท ส่วนรายได้ มาจากกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาเป็นหลัก ที่ดำเนินงานผ่าน 2 บริษัทคือแอลพีเอ็น และบริษัท พรสันติ จำกัด โดยหลังจากแอลพีเอ็นปรับเปลี่ยน เป้าหมายจากกลางถึงกลาง-ล่าง เป็น กลางถึงกลาง-บน และเปิดตัว 10 โครงการ มูลค่าการขาย 14,000 ล้านบาท ทำให้ยอดขายเพิ่มจาก 8,700 ล้าน ปี 2559 เป็น 16,000 ล้านบาท ในปี 2560 ส่วนรายได้นั้นอยู่ที่ 9,655 ล้านบาท
ส่วนพรสันติ ทำยอดขาย 1,750 ล้านบาท เติบโต 27% รายได้จากการขาย 1,000 ล้านบาท เติบโต 18%