อสังหาฯต่างชาติซื้อคอนโดฯในEEC100%แนะวิธีป้องกันถือกรรมสิทธิ์ทางอ้อม
เอกชนหนุนนโยบายต่างชาติ ซื้อคอนโดฯใน EEC ได้ 100% ชี้เกิดการลงทุน หนุน อสังหาฯโต ชาวต่างชาติรู้สึกเป็นเจ้าของ พร้อมแนะกำหนดขนาดที่ดินของคอนโดฯ ป้องกันต่างชาติใช้ช่องว่างกฎหมายถือกรรมสิทธิ์ที่ดินทางอ้อม
สืบเนื่องจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบให้ร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนา พิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ประกาศใช้เป็นกฎหมาย โดยหลังจากนี้จะส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นำขึ้นทูลเกล้าฯถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย คาดว่าจะนำมาประกาศใช้ในเดือนสิงหาคมนี้
ร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ... จะมี 3 จังหวัด ที่อยู่ในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor-EEC ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ที่จะได้รับสิทธิพิเศษทุกด้านตามที่นักลงทุนและภาคธุรกิจเคยเสนอให้พิจารณา เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมอนาคต
การส่งเสริมใน 3 จังหวัด จะแบ่งโซนที่ได้รับ สิทธิพิเศษแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมหรือที่อยู่อาศัย ซึ่งมีประมาณ 10 โซน ในพื้นที่ที่ได้รับการส่งเสริมพิเศษ หรือเรียกว่าพื้นที่ไข่แดง เช่น ได้รับการยกเว้นกฎหมายผังเมือง และผังเมืองใหม่ โดยจะมีกฎหมายเฉพาะด้านภายในพื้นที่ รวมถึงการให้สิทธิ์คนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน การซื้ออาคารชุดทั้ง 100% เป็นต้น
นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมอสังหา- ริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า การที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้ ต่างชาติสามารถซื้ออาคารชุดได้ 100% ในพื้นที่ EEC เป็นเรื่องที่ดี ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพราะแม้ว่าผู้ลงทุนจะเป็นชาวต่างชาติ แต่การลงทุนจะต้องใช้วัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ในไทย จะเป็นการส่งเสริมการลงทุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังกำหนดเขตการลงทุนที่ชัดเจน ไม่ได้ปล่อยให้ซื้อไปทุกพื้นที่
อย่างไรก็ตาม การเปิดโอกาสให้ต่างชาติซื้อคอนโดฯได้ 100% ยังมีข้อเสียอยู่บ้าง คือ ทำให้ราคาที่ดินในบริเวณที่รัฐบาลอนุญาตปรับตัวสูงขึ้นมาก และจะทำให้ราคาที่อยู่อาศัยในทำเลนั้นแพงขึ้นตาม และจะทำให้คนไทยที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้นซื้อบ้านแพงไปด้วย
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และนายกกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า การที่รัฐบาลออกกฎหมายให้ต่างชาติถือครองคอนโดมิเนียมได้เกินกว่า 49% ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 รัฐบาลได้ผ่อนปรนให้ต่างชาติสามารถซื้อคอนโดมิเนียมได้เกิด 49% มาแล้ว ซึ่งในขณะนั้นรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ปรากฏว่าไม่มีโครงการไหนขายได้เกิน 49% ส่วนหนึ่งมาจากต่างชาติไม่มีความมั่นใจในเศรษฐกิจของไทยในขณะนั้น รวมถึงเศรษฐกิจของต่างชาติเองก็ไม่ค่อยดี ทำให้มีคนซื้อน้อย
กรณี EEC ต่างกันออกไป เพราะเป็นช่วงที่กำลังพัฒนามีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ซึ่งเชื่อว่าจะมีความต้องการที่อยู่อาศัยจากต่างชาติจำนวนมาก แต่เชื่อว่ารัฐบาลคงไม่ได้เปิดพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดใน EEC สามารถขายคอนโดฯให้ต่างชาติได้ 100% แต่อาจกำหนดเป็นโซน
นอกจากนี้ รัฐบาลควรกำหนดขนาดที่ดินของคอนโดฯนั้นๆ ด้วย เนื่องจากคอนโดฯขนาด 2 ชั้นขึ้นไปก็สามารถจดทะเบียนอาคารชุดบน ที่ดินกี่ไร่ก็ได้ เช่น ห้องชุด 2 ห้อง บนพื้นที่ 1,000 ไร่ จดทะเบียนเป็นอาคารชุด ก็จะทำให้ถือครองที่ดิน 1,000 ได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้อาศัยช่องโหว่ของกฎหมายอาคารชุดถือครองที่ดินทางอ้อม
ทั้งนี้การเปิดโอกาสให้ต่างชาติซื้อคอนโดฯได้ 100% ในพื้นที่ EEC ครั้งนี้ถือเป็นกรณีศึกษาและกรณีตัวอย่างที่สำคัญของพื้นที่อื่นที่มีต่างชาติ อาศัยอยู่จำนวนมาก เช่น ภูเก็ต ซึ่งไม่จำเป็นต้องเปิด พื้นที่ทั้งจังหวัด แต่สามารถจัดแบ่งเป็นโซนได้