NCH เล็งหามิตรร่วมทุนบุกโครงการแนวราบ-สูง
Loading

NCH เล็งหามิตรร่วมทุนบุกโครงการแนวราบ-สูง

วันที่ : 14 กุมภาพันธ์ 2561
NCH เล็งหามิตรร่วมทุนบุกโครงการแนวราบ-สูง

NCH เผยอยู่ระหว่างเจรจาแผนร่วมทุนพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ หวังสรุป 1 ดีลภายในปี 2561 พร้อมตั้งเป้ารายได้และยอดขายเติบโตต่อเนื่องที่ 10-15% ลุยเปิด 3 โครงการใหม่ เน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางและล่าง เชื่อกำลังซื้อกลับมา ตุนสต๊อกบ้านพร้อมโอนราว 1,000 ล้านบาท คาดระบายออกได้ในครึ่งปีแรก 2561

นายสมนึกตันฑเทอดธรรมรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 จะเติบโตราว 10% เนื่องจากภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงราคาสินค้าเกษตร ภาคการท่องเที่ยว และการส่งออก ที่เพิ่มปรับตัวดีขึ้นในปีนี้ จะเป็นตัวช่วยเสริมความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น

จึงคาดว่ากำลังซื้อในปีนี้ 2561 กลับมาดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และคาดว่ากลุ่มตลาดระดับกลางและตลาดระดับกลางล่าง น่าจะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อดีในปีนี้ ส่วนอัตราค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นบริษัทมองว่าอาจมีผลกระทบต่อด้านราคาต้นทุนบ้าง แต่บริษัทเองก็มีการบริหารจัดการต้นทุนให้ชดเชยต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้

เปิดแผนงานปี 61

สำหรับภาพรวมของผลการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทคาดว่าทั้งยอดขายและรายได้จะเติบโตราว 10-15% จากปีก่อน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่รอรับรู้รายได้ในปี 2561 ทั้งหมดราว 300 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีสต๊อกโครงการในมือพร้อมขายอีก 1,000 ล้านบาท ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม และโครงการแนวราบ คาดว่าจะทยอยส่งมอบได้ในช่วงครึ่งปีแรกทั้งหมด

นอกจากนี้บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ในปี 2561 อีกประมาณ 3 โครงการ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการที่พัทยา และโครงการบ้านแนวราบอีก 2 โครงการ ในพื้นที่กรุงเทพโซนเหนือและตะวันตก คาดว่าอาจจะมีการเปิดโครงการเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังหากแนวโน้มการเติบโตยังดีต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทยังมีที่ดินที่รอการพัฒนาอีกราว 100 ไร่ ทั้งในกรุงเทพฯ และพัทยา ซึ่งหากมองเห็นศักยภาพในทำเลก็สามารถพัฒนาโครงการได้เลย เนื่องจากบริษัทยังมีความสามารถในการขยายกิจการได้ดี รวมถึงอัตราหนี้สินต่อทุนยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1 เท่า นอกจากนี้บริษัทยังเดินหน้าพัฒนาระบบสมาร์ตโฮม ทางด้านวิจัยพัฒนาระบบใหม่เพิ่มมากขึ้น

เล็งพันธมิตรร่วมทุน

อย่างไรก็ตามบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาหาพันธมิตรร่วมทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อร่วมกันพัฒนาที่อยู่อาศัย ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม ปัจจุบันมีการคุยกับบริษัทนอกตลาดและบริษัทต่างชาติ คาดจะได้ความชัดเจนจากพันธมิตร 1 รายในปีนี้แต่ยังไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาว่าจะสรุปเมื่อไหร่ เนื่องจากบริษัทเน้นการหาพันธมิตรร่วมทุนระยะยาว

นอกจากนี้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าที่ซื้อโครงการบางเซ็กเมนต์อยู่ที่ 30-40% ถือว่ายังอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารมีความเข้มงวดอย่างมากในการปล่อยสินเชื่อ เพื่อไม่ให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ซึ่งในปัจจุบันทางบริษัทก็ได้มีการคัดกรองลูกค้าก่อนถึงธนาคาร

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ