เพซฯ ดิ้นอีกรอบตัดขายที่ดิน 87 ไร่ที่ญี่ปุ่น นำเงินเกือบ 600 ล้านคืนหนี้ ลั่นไม่ยืดเวลาแสนสิริซื้อมหานคร

นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวล ลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการขายที่ดินเปล่าซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบล นิเซโกะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เนื้อที่รวมประมาณ 87 ไร่ 3 งาน 33.295 ตารางวา ซึ่งบริษัท ยังมิได้ใช้ประโยชน์ใดๆ ให้แก่ Rich forest International Investments Ltd ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกับบริษัทในราคา 2,050 ล้านเยน เทียบเท่ากับประมาณ 594.95 ล้านบาท (คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 29.0221 บาท/100 เยน) ทั้งนี้ไม่รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการขายประมาณ 365.83 ล้านเยน เทียบเท่า กับประมาณ 106.17 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้รับผิดชอบ

สำหรับที่ดินแปลงดังกล่าว บริษัทได้ซื้อมาในปี 2559 ในราคา 529 ล้านบาท โดยบริษัทได้ชำระค่าที่ดินเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 176.35 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3 บาท

"คณะกรรมการบริษัทมีความเห็นว่า บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องจำหน่ายที่ดินดังกล่าว เพื่อนำเงินที่ได้ไปชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดภาระดอกเบี้ย และลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา โดยราคาที่ขายนั้นเป็นราคาที่เหมาะสม การจำหน่ายที่ดินดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของบริษัทแต่อย่างใด" นายสรพจน์ กล่าว

นายสรพจน์ กล่าวว่า ตามที่บริษัทได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อการเจรจาซื้อขายโครงการนิมิต หลังสวน (ทั้งโครงการ) และห้องชุดที่พักอาศัยในโครงการเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก (จำนวน 53 ห้องชุด) ในโครงการอาคารชุดมหานคร กับบริษัท แสนสิริ (SIRI) และได้ขยายระยะเวลาในการทำการตรวจสอบทรัพย์สินมาจนถึงวันที่ 5 ก.พ. 2561 ซึ่งขณะนี้ได้ครบกำหนดเวลาแล้ว และทางแสนสิริได้แจ้งความประสงค์ขอขยายระยะเวลาออกไปอีก ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าระยะเวลาในการตรวจสอบสินทรัพย์มีความเหมาะสม และเพียงพอแล้ว

จึงมีมติไม่อนุมัติการขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไปอีก ซึ่ง SIRI มีสิทธิแจ้งความประสงค์ที่จะซื้อพร้อมเสนอราคามายังบริษัทภายใน 3 วัน นับจากวันครบกำหนดดังกล่าว

ขณะนี้เพซฯ อยู่ระหว่างการเพิ่มทุนและได้ยืดระยะเวลาในการเรียกชำระเงินเพิ่มทุนเป็นครั้งที่ 4 จากวันที่ 15 ม.ค. 2561 เป็นวันที่ 12-14 ก.พ. 2561 รวมถึงขอสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการยืดเวลานำส่งคำสั่งที่จะมีการประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนตามที่ ก.ล.ต.ให้ชี้แจงเป็นวันที่ 9 ก.พ. นี้