นายบัณฑูร ดำรงรักษ์ หัวหน้าฝ่ายบริการธุรกิจที่พักอาศัย เจแอล แอล กล่าวว่า คอนโดมิเนียม ไฮเอ็นด์รุ่นเก่าได้รับความนิยมจากผู้ซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการซื้อราคาที่ ไม่แพงเพื่ออยู่เอง ซึ่งบางโครงการมีราคาต่ำกว่าครึ่งของคอนโดฯ ไฮ เอ็นด์รุ่นใหม่ในโครงการที่เพิ่งสร้าง เสร็จหรือกำลังก่อสร้าง

นอกจากราคาที่ถูกกว่าแล้ว จุดเด่นสำคัญคือขนาดพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ เช่น ห้องชุด 2 ห้องนอนในคอนโดฯ รุ่นใหม่ส่วนใหญ่มีพื้นที่ใช้สอยระหว่าง 55-60 ตารางเมตร ขณะที่คอนโดฯรุ่นเก่ามีขนาดพื้นที่ใช้สอย 70 ตารางเมตร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครันมากกว่าและขนาดใหญ่กว่า ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ พื้นที่จอดรถ ห้องฟิตเนส พื้นที่สำหรับเด็ก สนามเทนนิส ซึ่งคอนโดฯ รุ่นใหม่หลายโครงการไม่มี จึงทำให้คอนโดฯไฮเอ็นด์รุ่นเก่าได้รับความสนใจ โดยเฉพาะโครงการที่มีการบำรุงรักษาและบริหารจัดการที่ดี

อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อต้องดูจุดด้อยคอนโดฯ รุ่นเก่าประกอบด้วย เช่น ผู้เช่าสวนใหญ่สนใจเช่าในโครงการที่ใหม่กว่า หากซื้อคอนโดฯ รุ่นเก่าเพื่อปล่อยเช่าอาจหาผู้เช่าได้ยากกว่า ยกเว้นโครงการที่มีการบริหารจัดการที่ดีมากและอยู่ทำเลชั้นดี โดยเฉพาะสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งเป็นที่ต้องการสูงของผู้เช่า ต้องดูปัญหาการบำรุงรักษาและการซ่อมแซมปรับปรุง หากอาคารขาดการดูแลและบริหารจัดการที่ดี ซึ่งความก้าวหน้าด้านการออกแบบและเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้คอนโดฯรุ่นใหม่มีความได้เปรียบคอนโดฯ รุ่นเก่าที่ออกแบบให้การใช้พื้นที่ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่สามารถปรับปรุงได้ โดยต้องตรวจสอบกับนิติบุคคลอาคารชุดหรือฝ่ายบริหารอาคารก่อนว่ามีข้อห้ามใดบ้างในการปรับปรุงต่อเติมห้องชุด ซึ่งหลายกรณีห้ามการปรับปรุงต่อเติม ใดๆ ที่จะมีผลกระทบต่อโครงสร้างหรือรูปลักษณ์โดยรวมของอาคาร