นายกอาคารชุดชี้ เจ้าของ ที่ดิน-ผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก แห่ ตัดที่ดินขายหรือร่วมทุน รับมือตลาดแข่งดุ

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย และประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียล เอสเตท เปิดเผยว่า ปัจจุบันเจ้าของที่ดิน และผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก นิยมขายที่ดินให้กับรายใหญ่มากขึ้น เนื่องจากมองโอกาสจะพัฒนาโครงการเองและเปิดขายให้ประสบความสำเร็จเป็นเรื่องยาก เพราะตลาดแข่งขันรุนแรง ทำให้เจ้าของ ที่ดินและผู้ประกอบการขายที่ดินให้กับ

รายใหญ่ดีกว่าได้เงินเข้ามาทันที และบางทีผลตอบแทนดีกว่าพัฒนาโครงการเองด้วยซ้ำ

"ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการ ขนาดเล็กนิยมขายที่ดินให้รายใหญ่เพราะ มองว่าได้กำไรดีกว่าจะพัฒนาโครงการเอง เนื่องจากจะต้องใช้เวลากว่าจะเริ่มก่อสร้าง ทำการตลาด ซึ่งเสียเปรียบรายใหญ่ที่มีแบรนด์ และสภาพคล่องการเงินที่ดีกว่า พัฒนาโครงการให้ประสบความสำเร็จได้ ส่วนปัจจัยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่จะบังคับใช้ปี 2562 ไม่ได้เป็นแรงกดดัน ให้เร่งขายที่ดินมากนัก" นายประเสริฐ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทที่ขาดสภาพคล่อง

ทางการเงินก็จะถูกกดดันจากสถาบันการเงินเพื่อให้นำเงินมาชำระกับสถาบันการ เงิน เช่น กรณีธนาคารไทยพาณิชย์ เร่งให้บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ เจรจา ขายทรัพย์บางส่วนคือห้องชุดในอาคารมหานครและโครงการนิมิต หลังสวน ให้กับบริษัท แสนสิริ เป็นต้น

ด้านแหล่งข่าวจากการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการจำนวนมากแสดงความสนใจ หลังจากที่การเคหะฯ เปิดตัวโครงการเคหะร่วมทุนและร่วมดำเนินกิจการเอกชนผ่านโมเดลการร่วมทุนใน 2 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบแรก โครงการร่วมดำเนินการ: เคหะประชารัฐ-ภูมิภาค มุ่งเน้นพัฒนา

โครงการขนาดเล็กที่มีมูลค่าโครงการไม่เกิน 1,000 ล้านบาท

สำหรับรูปแบบที่ 2 โครงการร่วมลงทุน PPP : เมืองประชารัฐ-สมาร์ทซิตี้ เน้นพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ดำเนินโครงการภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐปี 2556 ลักษณะให้สิทธิการเช่าที่ดินของการเคหะแห่งชาติระยะ 30 ปี และต่อสัญญาเพิ่มได้อีก 30 ปี ในรูปแบบ BOT (Build Operate Transfer) ให้กับกลุ่มทุนจากภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศเข้าลงทุนพัฒนาพื้นที่ โดยจะเสนอ ครม.ปีนี้