แสนสิริเจรจาซื้อลดราคา มหานคร
Loading

แสนสิริเจรจาซื้อลดราคา มหานคร

วันที่ : 30 มกราคม 2561
แสนสิริเจรจาซื้อลดราคา มหานคร

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวถึงภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ว่า มีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยมีปัจจัยการฟื้นตัวจากตลาดโลกที่คาดว่าจะโต 3.5% เศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มสูงขึ้นมาสู่ระดับ 4% จากที่เดิมขยายตัว 1-2% ขณะที่การลงทุนในภูมิภาคเอเชียมีปริมาณที่มากขึ้น ส่งผลต่อเนื่องถึงประเทศไทยที่คาดว่าทั้งปีน่าจะขยายตัวได้ตามที่รัฐบาลให้ข่าวไว้ 4% เนื่องจากดอกเบี้ยยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ การส่งออกที่ดีขึ้นเติบโต 5% ซึ่งแนวโน้มดังกล่าว ทุกๆคนมองเศรษฐกิจจะดีขึ้น

สำหรับแผนธุรกิจของแสนสิริในปีนี้ ถูกกำหนดไว้หลายด้าน ภายใต้แนวคิด "Tomorrow is Unfolded" โดยจะเป็นปีที่รุกตลาดเต็มสปีด ด้วยแผนการเปิดตัว 31 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 63,200 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 12 โครงการ 33,500 ล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วน 53%) แยกเป็น 5 โครงการในกรุงเทพฯ และ 7 โครงการในตลาดต่างจังหวัด โครงการแรกเปิดตัว ไตรมาส 1 ปีนี้ ภายใต้โครงการร่วมทุนกับบีทีเอส ชื่อโครงการ เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง คอนโดฯสูง 36 ชั้น เพียง 200 เมตร ถึงรถไฟฟ้า MRT วงศ์สว่าง มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 20,100 ล้านบาท (32%) และ โครงการทาวน์เฮาส์ 11 โครงการ 9,600 ล้านบาท (15%)

"ตามแผนแต่ละไตรมาส จะเปิดโครงการมูลค่าเกินกว่า 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในไตรมาส2 และ 3 จะมีการเปิดโครงการที่มีมูลค่ารวมสูงขึ้น โดยระดับราคาเฉลี่ยของแสนสิริในปีนี้ ทั้งคอนโดฯ ทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยว อยู่ที่ 5-6 ล้านบาท แต่เฉพาะคอนโดฯปีนี้ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 4-5 ล้านบาท นอกจากนี้ แสนสิริจะให้ความสำคัญกับการขยายตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น ต่างจากปี 60 ที่เราเร่งโปรโมชัน เคลียร์สต๊อกได้ 13 โครงการ มูลค่า 18,000 ล้านบาท ทำให้ต้องเพิ่มสินค้าในประเภทดังกล่าว"

นอกจากนี้ เพื่อรองรับการขยายตลาดต่างประเทศ ทางบริษัทได้ตั้งเป้ายอดขาย 13,000 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 40% จากปีที่ผ่านมาที่มียอดขายกว่า 9,300 ล้านบาท เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและเอเชีย ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้เปิดสำนักงานแห่งที่ 6 ในประเทศฮ่องกง จากที่มีอยู่ในประเทศจีน 4 แห่ง มาเลเซีย 1 แห่ง และ สิงคโปร์ 1 แห่ง นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสู่ตลาดอื่นๆ เช่น เกาหลี ไต้หวัน และญี่ปุ่น

"ประเด็นเรื่องเงินบาทแข็งค่านั้น คิดว่าไม่กระทบ เพราะนักลงทุนต่างประเทศซื้ออสังหาฯในไทย จะถือ 3-5 ปี ซึ่งมีทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัย ส่วนลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุน ก็จะถือระยะยาว โดยทางบริษัทฯกำหนดวางเงินดาวน์ประมาณ 25-30% ขณะที่ย้อนหลังไป 10 ปี ราคาอสังหาฯตามแนวรถไฟฟ้าราคาปรับขึ้นทุกปีเฉลี่ยปีละ 10%

ส่วนแผนการร่วมทุนพันธมิตร กับ บีทีเอส และ โตคิว กรุ๊ป บริษัทยังมีแผนพัฒนาโครงการร่วมทุนอีกประมาณ 4-6 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 12,000-19,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยัง มีแผนเปิดตัวโครงการที่พักอาศัย The Standard Residence และ Monocle Residence ซึ่งจะแยกส่วนระหว่างคอนโดฯและโรงแรม แต่คาดว่ายังไม่เปิดในปีนี้  นอจากนี้ เตรียมเปิดแบรนด์คอนโดฯใหม่ 1 แบรนด์ ใน 4 ทำเล ภายในปลายไตรมาส 2 ของปีนี้

สำหรับกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ คือ "JustCo" เป็น พื้นที่ Co Working Space มีแผนเตรียมเปิดอีก 4 สาขา ซึ่งจะเปิด 2 สาขาแรกที่อาคารเอไอเอ สาทร ในเดือน พ.ค. และอาคาร All Seasons Place ในเดือน ส.ค. นอกจากนี้ บริษัทมุ่งในการ สานต่อ Digital Transformation Chapter 2

นายอุทัยกล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการ ในปีนี้ว่า ได้ตั้งเป้าพรีเซลไว้ 45,000 ล้านบาท เพิ่ม ขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทำได้ 38,600 ล้านบาท โดยแหล่งยอดขายมาจากคอนโดฯ 65% และแนวราบ 35% ขณะที่รายได้ตั้งเป้าไว้ 30,000 ล้านบาท มาจากโครงการ 23,000 ล้านบาท และอีก 7,000 ล้านบาทมาจากค่าบริหารโครงการร่วมทุนกับบีทีเอส

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริฯ กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาซื้อขายโครงการนิมิต หลังสวน (ทั้งโครงการ) และห้องชุดที่พักอาศัยในโครงการเดอะริทซ์-คาร์ลตัล เรสซิเดนเซส บางกอก(จำนวน 53 ห้องชุด) ในโครงการอาคารชุดมหานคร ของ บมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ (PACE) ว่า "เราต้องดูเอกสารเพิ่มเติม เนื่องจากเมื่อเราเข้าไป เราเจอและพอบางสิ่ง และคิดว่า เราอาจจะต้องขอเจรจาเรื่องปรับราคาลง แต่ เรื่องนี้ เราต้องดิวกันสองฝ่าย แต่ถ้าดิวแล้ว ทาง PACE รับได้ เราก็โอเค แต่ถ้ารับไม่ได้ ก็ต้องดูว่า เจ้าหนี้ คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ รับได้หรือไม่ ส่วนระยะเวลานั้น ก็สามารถยืดหยุ่นได้ แม้จะมีการเลื่อนออกไปสิ้นสุดเดือน ม.ค.นี้".

 
ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ