พฤกษาเครื่องร้อนรุกตลาดคอนโดฯ พรีเมียม ลั่น 3-5 ปี ขึ้นแชมป์ลักชัวรี มั่นใจตลาดกลุ่มนี้จะขับเคลื่อนองค์กรพฤกษาไปข้างหน้า เผยปลายปี 61 จะมีการรับรู้รายได้จากคอนโดฯ สูงถึง 10,000 ล้านบาท "ซีบี" ระบุราคาขยับขึ้นทุกปี ย้อนหลัง 2 ปีเพิ่มขึ้น 25% ด้านผู้บริหาร ธ.เกียรตินาคินฯ เดินหน้าขยายพอร์ตสินเชื่ออสังหาฯรายใหญ่ กำลังซื้อดี ปลอดภัย ย้ำเน้นหนักดูประวัติลูกค้าแทนโลเกชั่น

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิทว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตสูงถึง 55% ซึ่งในปี 2559 มีมูลค่าตลาดประมาณอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 70% โดยคอนโดมิเนียมพรีเมียมมีการเติบโตมากที่สุด โดยบริษัทพฤกษามีการเติบโตในกลุ่มพรีเมียมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากเข้าสู่ตลาดดังกล่าวเพียงไม่ถึงปี สามารถ ทำตัวเลขยอดขายในคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี ณ ปลายปี 2560 มูลค่าสูงถึง 8,200 ล้านบาท ติด 1 ใน 5

"พฤกษา ได้ตั้งเป้าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า จะเป็นผลักดันแบรนด์คอนโดฯให้ก้าวสู่อันดับต้นๆ ของตลาดลักชัวรี และจะเป็นกลุ่มตลาดที่จะมีส่วนขับเคลื่อนองค์กรพฤกษา โดยโครงการคอนโดที่ได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาจะมาส่งผลและรับรู้รายได้ปลายปีนี้สูงถึง 10,000 ล้านบาท และจะพบว่า สินค้าคอนโดฯพรีเมียมเราไม่มีสต๊อกเหลือขาย และสิ่งสำคัญ พฤกษาต้องจับตาลักชัวรีให้แน่น เหมือนการแข่งขันกีฬา หากเราจะแข่งขันบนตลาดพรีเมียร์ลีดส์ การจะแข่งได้ เรา ต้องเก่งจริง เผ็ดจริง จะเห็นว่า ตลาดรวม อสังหาฯในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีมูลค่าประมาณ 4 แสนล้านบาท แต่เมื่อลงลึกจะเป็นตลาดลักชัวรีประมาณ 1 ใน 3  "นายประเสริฐ กล่าวและว่า

และเพื่อความพร้อมในการรุกตลาดพรีเมียม ทางพฤกษาจึงได้ตัดสินใจลงทุนซื้อที่ดินบนเนื้อที่ 7 ไร่ จากกลุ่มโรงแรมมณเฑียรมูลค่าประมาณ 1,700 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมลักชัวรี รูปแบบโลว์ไรส์ "เดอะรีเซิร์ฟ สุขุมวิท 61" บนทำเลใจกลางเมือง ซึ่งจะแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกจะมีจำนวน 186 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 2.3 แสนบาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) มีห้องให้เลือก ถึง 5 แบบ คือ แบบสตูดิโอพื้นที่ 30.5 ตร.ม. แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ 35-48 ตร.ม.มีสัดส่วน 50% ของจำนวนห้องทั้งหมด แบบ2 ห้องนอน Simplex พื้นที่ 62.5-138.8 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน Simplex พื้นที่ 157.6 ตร.ม.และแบบ ดูเพล็กซ์ พื้นที่ 115-132 ตร.ม. โดยได้เปิดรอบ VIP สามารถสร้างยอดขาย 40% หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการในเฟสแรก 2,469 ล้านบาท และจะเปิดรอบพรีเซลในวันที่ 3-4 ก.พ. ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2563

สำหรับเดอะรีเซิร์ฟ สุขุม 61 ออกแบบ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Reserve Your Exclusivity" ให้การอยู่อาศัยและการ พักผ่อนเสมือนได้อยู่บ้าน มีความเป็นส่วนตัวสูงสุด ซึ่งฟังก์ชั่นภายในห้องพักถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ หน้ากว้าง และยังเพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดังจาก CHANINTR (ชนินทร์) รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวก ต่างๆ ในโครงการ อาทิ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่มาพร้อม Sunken seat สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบเฉพาะ นอก จากนี้ พฤกษายังสร้างสรรค์บริการที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้าด้วย Concierge Service by The Reserve ที่อำนวยความสะดวกในการพักอาศัยให้กับลูกค้าบ้าน

นายประเสริฐ กล่าวเสริมว่า ใน ปีนี้ จะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีประมาณ 4 โครงการ มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยทุกโครงการมีที่ดินรองรับในการพัฒนาแล้ว

นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด วิเคราะห์ตลาดลักชัวรีว่า ยังเติบโตและมีความต้องการซื้อของลูกค้า โดยแม้ในภาวะที่ตลาดชะลอตัวลง ตลาดลักชัวรียังมีผลประกอบการที่ดีอยู่ โดยเฉลี่ยแล้วในแต่ละปี ซัปพลายจากโครงการคอนโดฯลักชัวรีเข้าสู่ตลาดประมาณ 10,000 ยูนิต บางปีที่ดีมากๆ ซัปพลายเข้าสู่ตลาดสูงถึง 12,000-13,000 ยูนิต แนวโน้มราคาปรับขึ้นเฉลี่ย 10-15%

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตลาดคอนโดฯ ระดับไฮเอนด์ ลักชัวรี และ ซูเปอร์ลักชัวรี ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ขยับสูงขึ้น โดยในปี 2558 ราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ที่ 2.15 แสนบาท และปัจจุบัน อยู่ที่ 2.65 แสนบาทต่อตร.ม. หรือเพิ่มขึ้น 25%

"เกียรตินาคิน" ปล่อยกู้ลูกค้ารายใหญ่

นายสำมิตร สกุลวิระ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ประธานสายสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงนโยบายการขยายพอร์ตสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ว่า ในปีนี้วางเป้าการเติบโตของสินเชื่อประมาณ 4-5% โดยจะรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่มากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ และทางธนาคารก็มีพอร์ตลูกค้าในกลุ่มนี้ค่อนข้างมาก โดยล่าสุด ทางธนาคารได้ร่วมมือกับบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตทฯ ในการสนับสนุนสินเชื่อทั้งหมดในการพัฒนาโครงการ"เดอะรีเซิร์ฟ สุขุมวิท 61"

"ที่ผ่านมา เรา(ธนาคาร)อาจจะมองเรื่องโลเกชั่นในการสนับสนุนโครงการให้กับลูกค้า แต่เมื่อตนเข้ามา เราจะดูนักพัฒนาโครงการที่ดี มีประวัติที่ดี ไม่ใช่นำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เราคบคนดีกว่า ปัจจุบันธนาคารฯมีพอร์ตสินเชื่ออสังหาฯ 70% เรามีพอร์ตลูกค้ารายใหญ่ที่เป็นบริษัทอสังหาฯชั้นนำค่อนข้างมาก และเป็นกลุ่มที่ความเสี่ยงต่ำ การขายไม่มีปัญหา เราสามารถปล่อยสินเชื่ออย่างปลอดภัย ในส่วน ของรายกลางและรายเล็ก ทางธนาคารฯก็ยังสนับสนุนและดูแล เพียงแต่การปล่อยสินเชื่อต้องดูเงื่อนไข เช่น การพัฒนาโครงการ เจ้าของโครงการต้องลงที่ดินให้แล้วเสร็จ เราปล่อยสินเชื่อก่อสร้าง ซึ่งการทำงาน เราจะร่วมมือกับผู้ประกอบการ ตั้งแต่แรก แต่หากข้อมูลที่เราแนะนำไป ลูกค้าเห็นต่าง เช่น ยังต้องการพัฒนาบนที่ดินแปลงนี้ ซึ่งเราเห็นว่า ซัปพลายสูง แข่งขันรุนแรง ตรงก็ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าของโครงการในการดูแลเอง"