ตลาดหุ้นไทยทะยาน 1,800 จุด หนุนนักลงทุนกระจายเสี่ยงซื้อคอนโด ยันเงินบาทแข็งค่าแค่ระยะสั้น

น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า จากการที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 1,800 จุดนั้น มั่นใจว่าจะส่งผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่จะเห็นกลุ่มนักลงทุนในตลาดหุ้นกระจายการลงทุนโดยนำผลกำไรที่ได้จากตลาดหุ้นเข้ามาลงทุนในตลาดอสังหาฯ มากขึ้นด้วย ซึ่งจะเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ หากดัชนีตัวเลขการลงทุนในตลาดหุ้นยังอยู่ในระดับนี้ หรือเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้

"ตลาดหุ้นกับอสังหาฯ เป็นเชื่อมโยงกัน จะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นปรับตัวดีก็จะทำให้ภาพรวมอสังหาฯ ปรับตัวดีตามขึ้นไปด้วย โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้กับแนวรถไฟฟ้า เนื่องจากเป็นโครงการที่เปลี่ยนมือผู้ซื้อ และสามารถปล่อยเช่าได้ง่าย โดยเฉพาะยิ่งมีต่างชาติเข้ามาทำงานหรือมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้นจะส่งผลดีกับที่อยู่อาศัยในกลุ่มนี้" น.ส.เกษรากล่าว

ขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้นเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยกระทบเพียงระยะสั้น เนื่องจากที่ผ่านมาค่าเงินบาทไทยไม่เคยแข็งค่าในระยะยาว ประกอบกับไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกต่างประเทศเป็นหลักมากกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ

นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า หากตลาดหุ้นไทยไต่ระดับที่สูงขึ้นในระยะเวลาที่นานขึ้นจะเห็นผลชัดว่ากลุ่มนักลงทุนจะกระจายการลงทุนมาสู่อสังหาฯ มากขึ้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในเมืองและจะเห็นผู้ประกอบการอสังหาฯ ต่างเร่งเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้นตามไปด้วย

"ก่อนหน้านี้ดัชนีหุ้นไทยที่ปรับขึ้นจาก 1,500 จุดเป็น 1,600 จุด ได้เห็นกลุ่มนักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุน บางส่วนมีการทยอยขายโดยเอาผลกำไรมาลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ และเมื่อ ราคาหุ้นทะยานขึ้นไปอีกก็เป็นปัจจัยบวก ส่วนกรณีที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นนั้นยังไม่ได้กระทบกับตลาดอสังหาฯ มากนัก เนื่องจากการซื้ออสังหาฯ ส่วนใหญ่มาจากกำลังซื้อในประเทศ ส่วนต่างชาตินั้นส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนในเอเชีย" นายสุรเชษฐ กล่าว

ด้าน นายสัมมา คีตสิน นักวิชาการด้านอสังหาริมทรัพย์ ประเมินตลาด อสังหาฯ ไทยในปี 2561 จะเติบโตได้ดีในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี เฉลี่ยอยู่ที่ 5% แต่ไม่เกิน 10% เนื่องจากในช่วงไตรมาสสุดท้ายจะมีแรงกดดันจากการเลือกตั้งภายในประเทศ โดยเฉพาะหากไม่มีการเลือกตั้งตามสัญญาจากรัฐบาลจะยิ่งเป็นแรงกดดัน ทำให้เศรษฐกิจซึม