GLAND ซุ่มเจรจาขาย ที่ดินโครงการร่วมทุน BTS จำนวน 49 ไร่หวังบุ๊กกำไรพิเศษปี 2561 นี้ แย้มดึงพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศร่วมทุนโครงซุปเปอร์ทาวเวอร์ หวังชัดเจนปีนี้ คาดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565 พร้อมศึกษาพัฒนาคอนโดต่อเนื่อง เล็งขยายกองรีทเพิ่ม ย้ำทำบิ๊กล็อต 1.39 พันล้านหุ้น ต่ำกว่าราคากระดาน เหตุใช้ราคาบุ๊กแวลูไตรมาส 3/2560

นายสุรกิจ ธารธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาขายที่ดินของบริษัท เบย์วอเตอร์ จำกัด จำนวน 49 ไร่ ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ในสัดส่วน 50:50% โดยที่ดินดังกล่าวได้แบ่งสัดส่วนออกเป็น 7 แปลง เพื่อจำหน่ายให้กับผู้ที่ต้องการซื้อ ซึ่งขณะนี้ได้มีการเจรจาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ และสามารถบันทึกมาเป็นกำไรพิเศษจากการขายที่ดิน

"ตอนนี้เราก็มีการเจรจาขายที่ดินอยู่ เป็นที่ดินของบริษัทร่วมทุน 49 ไร่ ตอนนี้มูลค่าโครงการอยู่ที่ 8 พันล้านบาท ซึ่งเราก็มีการแบ่งที่ดินเป็น 7 แปลง เพื่อที่จะตัดแบ่งขาย ก็มีคนมีเจรจาหลายราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปและบันทึกกำไรพิเศษปีนี้ ที่ดินดังกล่าวถือว่าเป็นทำเลที่ดีมาก และก็ได้รับความสนใจต่อเนื่อง" นายสุรกิจกล่าว

เจรจาพันธมิตรร่วมทุน

พร้อมกันนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อร่วมลงทุนในโครงการซุปเปอร์ทาวเวอร์ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีมูลค่าการก่อสร้างที่ 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากได้พันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนจะถือเป็นปัจจัยบวกต่อโครงการ แต่ปัจจุบันบริษัทได้เริ่มการก่อสร้างไปบางส่วนแล้ว โดยโพเดียม 2 ซึ่งเป็นอาคารจอดรถและรีเทล คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในช่วงปลายปี 2561 นี้ ส่วนอาคารทาวเวอร์อยู่ระหว่างดำเนินการคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2565

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีพื้นที่การก่อสร้าง 3.2 แสนตารางเมตร ขณะที่แหล่งเงินลงทุนปัจจุบันบริษัทได้ใช้กระแสเงินสดจากในบริษัทซึ่งถือว่ามีอยู่จำนวนมาก และยังมีโอกาสกู้ยืมเงินลงทุนจากสถาบันทางการเงินได้อีกจำนวนมากเพราะมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ต่ำเพียง 1.01 เท่า ซึ่งนโยบายจะรักษาระดับให้ไม่เกิด 2 เท่า

ที่ดินเปล่าเต็มมือ

อย่างไรก็ดีบริษัทยังมีที่ดินในมือจำนวนมากที่พร้อมสำหรับการพัฒนาโครงการ โดยมีที่ดินบริเวณ มิราเคิลแกรนด์จำนวน 30 ไร่ซึ่งบริษัทวางแผนจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมเนื่องจากอยู่ใกล้โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงทำให้มีโอกาสที่จะมีความต้องการสูงมาก ทั้งนี้คาดว่าจะได้เห็นความคืบหน้าของโครงการในช่วงปลายปีนี้ อีกทั้งยังมีที่ดินราว 200 ไร่ บริษัทดอนเมืองที่บริษัทกำลังพิจารณาที่จะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมเช่นเดียวกัน

ขณะเดียวกันบริษัทได้มีการศึกษาที่จะเพิ่มขนาดกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อาคารสำนักงาน จีแลนด์ (GLANDRT) ซึ่งปัจจุบันกองดังกล่าวให้ผลตอบแทนที่สูง และขนาดกองตอนนี้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาท โดยปัจจุบันยังมีโครงการที่มีศักยภาพอย่างมาก อย่างโครงการอาคาร G Tower ปัจจุบันมีผู้เช่าแล้วกว่า 98% ของพื้นที่หลังเปิดให้บริการในไตรมาส 1/2560 โดยได้รับความไว้วางใจและเข้ามาเช่าพื้นที่จากบริษัทชั้นนำ เช่น โทรคมนาคม, บริษัทประกันภัยชั้นนำ, เครือข่ายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ, สถาบันการเงิน และการธนาคาร เป็นต้น

โยนบิ๊กล็อตปรับโครงสร้าง

นายสุรกิจ กล่าวต่อว่า ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นของกลุ่ม หลังมีการทำรายการบิ๊กล็อต เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2561 จำนวน 1,396,653,687 หุ้น ในราคาเฉลี่ย 1.77 บาท เป็นมูลค่า 2,472 ล้านบาท โดยบริษัท เจริญกฤษ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ขายหุ้นจำนวนดังกล่าว ให้แก่ กลุ่มบุญเจริญดี ส่งผลให้ถือหุ้นจาก 33.23% เหลือ 9.76% หรือคงถือหุ้น 581,001,523 หุ้น

โดยกลุ่มบุญเจริญดี ถือหุ้นเพิ่มจาก 12.4% เป็น 35.86% โดยในการถือครองหลักทรัพย์ของกลุ่มยังคงเท่าเดิม และการเข้าทำรายการดังกล่าวไม่มีผลต่อโครงสร้างการบริหารจัดการของบริษัทหรือนโยบายในการบริหารธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด ส่วนราคาซื้อขายที่ 1.77 บาทต่อหุ้นเป็นราคา Book Value (มูลค่าตามบัญชี) ณ ไตรมาส 3/2560

เคาะต้าน 2.10 บาท

ด้านนางสาวศศิมา หัตถกิจนิกร นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ระบุถึง GLAND ว่าสัญญาณเทคนิคมีสัญญาณซื้อ ปริมารการซื้อขายปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นแนะนำนักลงทุน "ซื้อเก็งกำไร" ประเมินแนวต้านที่ 2.10 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1.87 บาท