อีสเทอร์นสตาร์ลุยอสังหาหรู เปิด3โครงการใหม่ชิงเค้กตลาดบนแย้มแผนลงทุนขยายพอร์ตดันโตกว่า20%
รุกอสังหาหรู
อีสเทอร์น สตาร์ฯ กางแผนรุกตลาดอสังหาฯ ระดับบน จ่อผุด 3 โครงการมูลค่ารวมเกือบ 3,000 ล้าน ตั้งเป้าขายโตกว่า 20%
นายต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2561 ว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และที่บ้านฉาง จ.ระยอง รวม 3 โครงการ มูลค่ารวมราว 2,000-3,000 ล้านบาท เพราะในปี 2560 ได้มีการขายและทยอยโอนโครงการที่อยู่ในมือไปมาก ทำให้บริษัทต้องมีการพัฒนาโครงการเข้ามาเสริมพอร์ต
ทั้งนี้ ในส่วนของพื้นที่กรุงเทพฯ มีแผนจะพัฒนาทั้งแนวราบและสูงรวม 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการคอนโดโลว์ไรส์ บนทำเลเอกมัย พื้นที่ประมาณ 2 ไร่ครึ่ง ราคาขายเริ่ม 3-5 ล้านบาท และโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ทำเลย่านพัฒนาการ พื้นที่ 21 ไร่ ราคาขายเริ่มต้นที่ 7 ล้านบาท
สำหรับทำเลบ้านฉางเป็นการพัฒนาบ้านเดี่ยวบนพื้นที่ราว 24 ไร่ ใกล้สนามกอล์ฟ อีสเทอร์น สตาร์ คันทรี่ คลับ แอนด์ รีสอร์ท มูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวโครงการได้ประมาณปลายไตรมาสแรกปี 2561 อย่างไรก็ดีในปีนี้จะได้เห็นโปรดักต์ ใหม่ๆที่มีดีไซน์และฟังก์ชั่นที่หลากหลาย เพื่อตอบไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคมากขึ้น ขณะเดียวกันจุดแข็งของบริษัทก็ยังมีอยู่
นายต่อศักดิ์ กล่าวว่า รวมทั้งได้ทุ่มงบราว 30 ล้านบาท ในการปรับปรุงอาคารเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่พักอาศัยให้เช่าของโครงการซีสตาร์ พร็อพ เพอร์ตี้ส์ ตั้งอยู่ติดกับสนามกอล์ฟ จำนวน 3 อาคาร จาก 8 อาคาร โดยมีการปรับขนาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์จากเดิมมีแต่ขนาด 2-3 ห้องนอน เป็นขนาด 1 ห้องนอน จำนวน 1 อาคาร เพื่อรองรับลูกค้ามาคนเดียวหรือครอบครัวขนาดเล็ก
นอกจากนี้ ยังปรับอีก 2 อาคารเป็นโรงแรมภายใต้ชื่อ ซีสตาร์โฮเต็ล ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนการใช้อาคารโดยได้จดทะเบียนธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายแล้ว และเมื่อแล้วเสร็จมีห้องรองรับลูกค้าทั้งรายวันและรายเดือนรวม 100 ยูนิต คาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์จะเปิดบริการได้ราวต้นปี 2561 ทั้งนี้ยังมีบ้านเดี่ยวให้เช่าอีก 20-30 หลัง ซึ่งลูกค้าหลักยังคงเป็นชาวต่างชาติมีสัดส่วนถึง 80-90%
อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนพัฒนาอสังหาฯ ในทุกรูปแบบรวมทั้งไม่ปิดกั้นการร่วมทุน ซึ่งขณะนี้ได้มีการศึกษาแลนด์แบงก์ในมือทุกแปลงและพร้อมพัฒนาตามศักยภาพพื้นที่โดยต้องดูในเรื่องดีมานด์ซัพพลาย โดยบริษัทจะต้องสร้างความสมดุลระหว่างรายได้จากการขายและรายได้ระยะยาวจากการเช่า ทั้งนี้บริษัทวางงบซื้อที่ดินปี 2561 ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้ง กทม.และบ้านฉาง โดยตามแผนระยะสั้นจะพัฒนาโครงการ 2-3 โครงการ/ปี (ปี 2561-2563)
ขณะที่เป้าหมายการเติบโตปี 2561 บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมโตไม่ต่ำกว่า 20% และเป้ารับรู้รายได้ราว 2,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นอสังหาฯ ขายกว่า 90% ที่เหลือเป็น อสังหาฯ เช่า