รับเหมา แตกไลน์เพิ่มรายได้ปีหน้า
"เอสทีพีไอ" ซื้อโรงงานคลังสินค้า 1.3 พันล้าน
ธุรกิจจรับเหมา แตกไลน์ธุรกิจหวังหารายได้เพิ่ม เอสทีพี แอนด์ ไอ ทุ่ม 1.3 พันล้าน ซื้อโรงงานพ่วงคลังสินค้า รุกเข้าสู่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และ โลจิสติกส์ สร้างความแน่นอน ให้รายได้และลดความเสี่ยง ขณะที่ อิตาเลียนไทยคว้างานใหม่เพิ่ม 2 โครงการ รวมมูลค่า 1.25 พันล้าน ด้านโบรกยกเป็นหุ้นเด่นปีหน้า
บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) STPI แจ้งว่า บริษัท เอสที พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด (STPL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้เข้าซื้อทรัพย์สินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยเป็นอาคารโรงงาน จ.ปทุมธานี และ คลังสินค้า อาคารคลังสินค้า ใน นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ที่มีสัญญาเช่าระยะยาว และทำการรับโอน ทรัพย์สิน มูลค่าไม่เกิน 1.3 พันล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากบริษัท บอร์เนียว เอเจ็นซีส์ จำกัด
ทั้งนี้ เพื่อขยายขอบเขตการลงทุน ของบริษัทในธุรกิจอื่น ซึ่งได้แก่ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และ โลจิสติกส์ เพื่อเป็นการกระจาย ความเสี่ยง สร้างความแน่นอนในรายได้ ของบริษัท เพิ่มโอกาสในการสร้าง ผลกำไรให้แก่บริษัทเพิ่มเติมจาก ธุรกิจเดิม และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทรวมถึงผู้ถือหุ้น
ขณะที่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD แจ้งว่า บริษัท ได้ลงนามในสัญญาก่อสร้าง จำนวน 2 โครงการ รวมมูลค่า 1,257.53 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสาย ไฟฟ้าใต้ดินร่วมกับโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทอง กรุงเทพมหานคร การไฟฟ้านครหลวง มูลค่างาน 188.60 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 29 เดือน และงานโยธาโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทอง ระยะที่ 1 กรุงเทพมหานคร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด มูลค่างาน 1,068.93 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน
ฝ่ายวิจัยบล.ทิสโก้ระบุว่า หุ้นกลุ่ม ที่น่าสนใจในปี 2561 มองว่า หุ้นกลุ่ม รับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างจะ ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงครึ่งปีหลัง ได้รับปัจจัยหนุนจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ของภาครัฐ โดยมีหุ้นเด่นคือ ปูนซิเมนต์ไทย (SCC), ซีฟโก้ (SEAFCO) , ไพลอน (PYLON), ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC), ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) และ ช.การช่าง (CK)