บิ๊กเอพี ชี้ปีจอยังเหนื่อยควัก200ล้านพัฒนาองค์กร
Loading

บิ๊กเอพี ชี้ปีจอยังเหนื่อยควัก200ล้านพัฒนาองค์กร

วันที่ : 17 ธันวาคม 2560
บิ๊กเอพี ชี้ปีจอยังเหนื่อยควัก200ล้านพัฒนาองค์กร

"อนุพงษ์ อัศวโภคิน"ชี้ภาพรวมตลาดอสังหาฯปี 61 ยังเหนื่อยหนัก เศรษฐกิจทรงตัว ทุ่มกว่า 200 ล้านบาท พัฒนาคนและองค์กร พร้อมรับการแข่งขันสูง เพิ่มมูลค่าโปรดักต์ผ่านนวัตกรรมจาก design thinking  มั่นใจปีนี้รายได้โตตามเป้า 10-15%

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภาพรวมธุรกิจอสังหาริม ทรัพย์ว่า ช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ จีดีพีรวมของประเทศเติบโตดี ส่งผลดีต่อภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมขยับตัว ในส่วนของบริษัทเอพีฯ มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งทาวน์โฮม พระราม 9 และโครงการ Life Wireless คอนโดฯไฮไรส์ 43 ชั้น ยอดจองกว่า 90% เกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีจะทำรายได้เติบโตตามเป้า 10-15%

สำหรับภาพรวมปี 2561 มองว่าเศรษฐกิจยังทรงตัว การส่งออกของประเทศยังเติบโต ทำให้เกิดการลงทุนเพิ่มในประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ที่ขยับตัวได้บ้าง โดยตลาดที่ไปได้ดี จะเป็นตลาดแนวราบ ทาให้การแข่งขันในตลาดสูง

ส่วนตลาดคอนโดมิเนียม จากสต๊อกเดิมที่มีอยู่ในตลาด กว่า 6 หมื่นหน่วย และความต้องการในตลาดไม่ค่อยดี จะทาให้มีคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม จากการเกิดขึ้นของระบบสาธารณูปโภค ทั้งรถไฟฟ้าและอุโมงค์ข้ามแยก จะทาให้คอนโดมิเนียมตามเส้นทางรถไฟฟ้าได้รับอานิสงส์ โดยเฉพาะสายรามอินทรา และรามคำแหง

แต่ภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศ รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ยังมีความเปลี่ยนแปลงสูง เนื่อง จากการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทาให้ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทาให้เอพีต้องเร่งปรับตัวองค์กรให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง โดยมองหาปัญหาและความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่และโดนใจขึ้นมาแทนที่ โดยเอพีวางงบไว้กว่า 200 ล้านบาทในการพัฒนาบุคลากรและองค์กร ผ่านการจับมือกับมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด นารูปแบบ Design Thinking เข้ามาพัฒนาโปรดักต์ใหม่ๆ ซึ่งปีหน้าจะได้เห็นนวัตกรรมบริการและโปร ดักต์ที่เอพีจะนาเข้ามาทดลองตลาด 2-3 อย่าง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ขณะนี้

นายอนุพงษ์ กล่าวว่า เป้าหมายของการนา Design Think-ing เข้ามาใช้ คือการสร้างความอยู่รอดให้เอพี ที่ต้องพัฒนาโปร ดักต์ให้ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้บริโภคเป็นหลัก แต่ปีหน้ารายได้ยังไม่เห็น แต่จะบริการตัวอย่าง หรือ MVP (Minimum Viable Product) มีฟีเจอร์น้อยที่สุด ที่นามาทดลองใช้งานจริงกับวงแคบๆ ดูว่าลูกค้าจะชื่น ชอบและให้การตอบรับมากน้อยเพียงใด

"สิ่งที่ต้องการเห็น คือ อสังหาฯเอาตัวรอด เพราะทุกคนต้องหาทางเดินของตัวเองให้เจอ ที่ดินเริ่มหมด วันนี้เราอยู่ช่วงพีกที่สุด ตอนนี้เจนวายเยอะสุด คนรุ่นใหม่มีน้อยลง ธุรกิจจะไปไหนต่อ ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยน และ สร้างตัวตนของเรา ที่ลูกค้าเห็น แล้วอยากได้" นายอนุพงษ์กล่าว

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ