BTSจัดทัพชูยูซิตี้ผงาดลุยอสังหาฯ
Loading

BTSจัดทัพชูยูซิตี้ผงาดลุยอสังหาฯ

วันที่ : 14 ธันวาคม 2560
BTSจัดทัพชูยูซิตี้ผงาดลุยอสังหาฯ

วางงบกว่าหมื่นล.ซื้อ2เชนดังยุโรป

บีทีเอส จัดทัพธุรกิจ โอนพอร์ตแอสเสตบิ๊กล็อตให้บมจ.ยู ซิตี้ ผงาดรุกอสังหาฯเน้นลงทุนระยะยาว ดันเพิ่มทุน 1.5 หมื่นล้านต้นปี ด้าน "คีรี" ลั่นขยายโรงแรม 3 หมื่นห้อง กันงบ 3 แสนล้านลุยโครงสร้างพื้นฐาน

การจัดทัพธุรกิจของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส มีความชัดเจนขึ้น โดยการลงทุนระบบขนส่งมวลชน จะดำเนินการภายใต้บริษัท บีทีเอสซีฯ ส่วนธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ที่ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้บริษัทยูนิคอร์น เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด จะโอนมาอยู่ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งบีทีเอสถือหุ้นอยู่ 35.64% เพื่อให้บริษัทนี้เป็นหัวหอกที่มุ่งเน้นลงทุนด้านอสังหา ริมทรัพย์ที่สร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่องของกลุ่ม

นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บีทีเอส กล่าวว่า การประชุมผู้ถือหุ้นบมจ. ยู ซิตี้ ในวันที่ 4 มกราคมนี้ จะมีการขอมติผู้ถือหุ้น เพิ่มทุนอีก 15,000 ล้านบาท นำเงินไปซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์จากบีทีเอส เช่น อาคารทีเอสที ทาวเวอร์ ที่ดินเขาใหญ่ คอนโดมิเนียมในส่วนที่บีทีเอสร่วมลงทุนกับ บมจ. แสนสิริ ซึ่งมีแผนพัฒนร่วมกันกว่า 21 โครงการ มูลค่าราว 1 แสนล้านบาท ก่อสร้างแล้ว 10 โครงการ รวมถึงการโอนบริษัทแอ็บโซลูท โฮเต็ล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ(AHS) ซึ่งรับบริหารโรงแรมแบรนด์ อีสติน แบรนด์ ยูโฮเทล แอนด์รีสอร์ท ให้เข้าอยู่ภายใต้ บมจ.ยูซิตี้

"การนำAHS เข้ามาอยู่ใน บมจ.ยู ซิตี้เมื่อร่วมกับเวียนนา เฮ้าส์ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจจากจุดเด่นของ 3 แบรนด์ที่ต่างกัน เช่น แบรนด์ยูโฮเทล จะบริหารบูติก รีสอร์ตขนาดไม่เกิน 100 ห้อง แบรนด์อีสติน เจาะตลาดนักท่องเที่ยว ส่วนเวียนนา เฮ้าส์ เป็นตลาดคอร์ปอเรต ซึ่งการลงทุนในยุโรป มองว่าเราซื้อแบรนด์โรงแรม เพื่อนำมาต่อยอดสร้างรายได้ระยะยาว"

ด้านนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ. บีทีเอส กล่าวว่า ขณะนี้มีแผนจะซื้อเชนโรงแรมอีก 2 แห่งในยุโรป ถ้าตกลงกันได้คาดว่าจะใช้เงินอีกราวกว่าหมื่นล้านบาท โดยเป็นเชนรีสอร์ตและสปาเพื่อสุขภาพ ขนาดเท่าๆ กับเวียนนา เฮ้าส์ ส่วนอีกเชนเป็นโรงแรมในเมือง ไม่เกิน 200ห้อง

ส่วนการร่วมลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ มาอยู่ภายใต้ ยู ซิตี้ จะทำให้มีพอร์ตใหญ่ขึ้นเมื่อรวมโรงแรมและอสังหาฯที่ทยอยโอนเข้ามา เฉพาะในส่วนของโรงแรมรวม 3 แบรนด์ ปัจจุบันมีห้องพักรวมกันกว่า 1.9 หมื่นห้องแล้ว ถ้ารวมที่เราจะซื้อเพิ่มอีกต่อไปก็จะมีกว่า 3 หมื่นห้อง จะทำให้เรามีพลังที่จะไปต่อรองกับนักลงทุนในการขยายธุรกิจ

นายคีรี ยังกล่าวอีกว่า สำหรับแผนขยายธุรกิจในช่วง 5 ปี ยังเน้นการลงทุนใน 4 ด้านหลัก คาดว่าใช้งบลงทุนร่วม 1.1 แสนล้านบาทช่วง 3 ปี โดยด้านแรก เป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟฟ้าเป็นหลัก ซึ่งช่วง 3 ปีอยู่ระหว่างลงทุนรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี)รถไฟฟ้าสายสีเหลือง(ลาดพร้าวสำโรง) มูลค่าการลงทุนราว 1 แสนล้านบาท

"ปีหน้าหากดูทีโออาร์ที่รัฐบาลเปิดให้เอกชนเข้าดำเนินการอีกหลายโครงการแล้วเวิร์กเราจะประมูลแน่นอน ซึ่งคาดว่าการลงทุนน่าจะอยู่ราว 3 แสนล้านบาท โดยผมได้ตั้งงบลงทุนไว้แล้ว"

ด้านที่ 2 เป็นธุรกิจสื่อโฆษณาภายใต้ บมจ. วีจีไอ ด้านที่ 3 เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มองการลงทุนระยะยาวไม่ได้ขายเน้นซื้ออสังหาฯที่มีผลตอบแทนจากการลงทุน โดยให้ยู ซิตี้ เป็นศูนย์รวมของการลงทุน และด้านที่ 4 คือ ธุรกิจด้านบริการ ซึ่งตอนนี้เหลือแต่ร้านอาหาร

"จากธุรกิจใน 4 ด้านนี้มองว่าในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้ เฉลี่ยจะมีกำไรเพิ่มขึ้นของทั้งกรุ๊ป ปีละ 25% จากปี 2561/2562 ปัจจุบัน มีกำไรสุทธิราวกว่า 2 พันล้านบาทในอนาคตรายได้กว่า 60% จะมาจากการลงทุนระบบขนส่งมวลชน" นายคีรีกล่าว

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ