ยึดทำเลทอง กรุงเทพฯ-พัทยา-เชียงใหม่ 3ปีลงทุน7หมื่นล้าน ทุนจีนรุก คอนโด-โรงแรม
Loading

ยึดทำเลทอง กรุงเทพฯ-พัทยา-เชียงใหม่ 3ปีลงทุน7หมื่นล้าน ทุนจีนรุก คอนโด-โรงแรม

วันที่ : 12 ธันวาคม 2560
ยึดทำเลทอง กรุงเทพฯ-พัทยา-เชียงใหม่ 3ปีลงทุน7หมื่นล้าน ทุนจีนรุก คอนโด-โรงแรม

กลุ่มกรีนแลนด์ยักษ์อสังหาฯเซี่ยงไฮ้ เล็งผนึกเอกชนไทย

กลุ่มทุนจีนรุกลงทุน อสังหาฯไทย โฟกัส "คอนโด-โรงแรม" ชิงโอกาสนักท่องเที่ยวจีนขยายตัว คาด เม็ดเงินลงทุนต่อเนื่อง 2-3 ปี เฉลี่ยปีละ 4-5 หมื่นล้าน ยึดทำเลนักท่องเที่ยวจีนคึก "พระราม9-รัชดาภิเษก-พัทยา-เชียงใหม่ - ภูเก็ต" ด้านผู้รับเหมาเชียงใหม่รับทุนจีน ปักหมุดสร้างคอนโดทั้ง"ขาย-เช่า"ให้คนจีน ด้วยกัน เน้นร่วมทุนคนไทย  ขณะ"กลุ่ม กรีนแลนด์"ยักษ์อสังหาฯเซี่ยงไฮ้ เตรียมจับมืออสังหาฯไทย

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย มีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง ดึงดูด "ต่างชาติ"เข้ามาลงทุนในไทยเพื่อรับอานิสงส์นี้ โดยเฉพาะ กลุ่มทุนจีน เริ่มเข้ามาลงทุนอสังหาฯ อย่างชัดเจนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งปัจจุบันเป็นนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ในไทย ประเมินการลงทุนกลุ่ม อสังหาฯ ของกลุ่มทุนจีน ระหว่างปี 2558-2560 รวมมูลค่าอยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท

โดยโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ ลงทุนไปแล้ว เช่น จงเทียน คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป  ร่วมทุนกับ เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสในพัทยา มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท, จุนฟา เรียลเอสเตท ร่วมทุน ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ พัฒนามิกซ์ยูส ในพังงาและหัวหิน มูลค่า 3,000 ล้านบาท

ธนาคารไชน่า ผิงอัน สนับสนุนสินเชื่อ ให้ คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเม้นท์ ในโครงการมิกซ์ยูส ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่า 1.3 หมื่น ล้านบาท, คันทรี่ การ์เด้น โฮลดิ้ง ร่วมทุน ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม พัฒนาคอนโดมิเนียม ในกรุงเทพฯ มูลค่า 6,800 ล้านบาท

ปี 2561 คาดว่ายังมีการลงทุนอสังหาฯ จากกลุ่มทุนจีนต่อเนื่องที่ประกาศเปิดตัวไปแล้ว คือโครงการทรัสต์ ซิตี้ ทำเล บางนา-ตราด กม.29 พื้นที่ 500 ไร่ ของบริษัท ไฮดู กรุ๊ป (Hydoo Group) การลงทุนเมืองส่งเสริมการค้าและศูนย์แสดงสินค้าครบวงจร มูลค่า 1 แสนล้านบาท เปิดตัวปี 2560 คาดแล้วเสร็จ 2563 อีกโครงการเป็นการร่วมทุนของ จีน สิงคโปร์ และไทย ลงทุนคอนโดมิเนียม ทำเลสุขุมวิท 19 และ สุขุมวิท 28 มูลค่า 7,000 ล้านบาท เปิดตัวปี 2561

"ทุนจีน"ลงทุนปีละ4-5หมื่นล้าน

นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า กลุ่มทุนจีน เริ่มเข้ามาลงทุนในตลาดอสังหาฯ ไทยชัดเจน ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จาก บริษัทขนาดใหญ่ระดับประเทศของจีนหลายบริษัทเริ่มหาช่องทางในการลงทุนนอกประเทศมากขึ้น ไม่ต่างกับทุนญี่ปุ่น เพราะศักยภาพของจีน ไม่ได้ด้อยกว่าประเทศอื่น เห็นได้จากการที่นักลงทุนเข้าไปลงทุนหรือกว้านซื้อกิจการและอสังหาฯในสหรัฐและยุโรป รวมถึงในหลายประเทศของเอเชีย อีกทั้งหลายบริษัทเอกชนและกึ่งรัฐบาลของประเทศจีน คาดหวังว่าจะเข้ามาช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทยและวางแผน การลงทุนระยะยาว

ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาทุนจีนลงทุนใน กลุ่มอสังหาฯ มูลค่ารวมอยู่ที่ราว 7 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม และมีแนวโน้ม เพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า คาดว่าเฉลี่ยที่ ปีละ 4-5 หมื่นล้านบาท

"ปัจจัยการลงทุน ต้องดูสถานการณ์หลายๆ อย่างประกอบ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ การถือครองกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ ของชาวต่างชาติ การโอนเงินหรือการนำเงินออกนอกประเทศของคนจีนเอง"

นอกจากนี้ ยังมาจากปัจจัย การเดินทาง ที่สะดวกทั้งระหว่างประเทศและภายในประเทศ รวมไปถึงความสะดวกสบายในชีวิตความเป็นอยู่ที่ค่าครองชีพไม่สูงมาก

"นักลงทุนจีนที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทย เพราะต้องการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ เพื่อรองรับคนจีนและคนในประเทศไทย"

สนใจลงทุน"คอนโด"

นายสุรเชษฐ กล่าวว่ากลุ่มทุนจีน สนใจลงทุนคอนโด มากเป็นอันดับหนึ่ง สัดส่วน 70% ของการลงทุนอสังหาฯ เพราะความสะดวก ในการขายกรรมสิทธิ์ให้กับชาวต่างชาติ อีกทั้งสามารถขายห้องในโครงการให้กับ ชาวต่างชาติได้ 49% ซึ่งนักลงทุนจีนส่วนใหญ่ สามารถขายให้กับคนจีนในสัดส่วนนี้ได้อยู่แล้ว นอกจากนี้สนใจลงทุนโรงแรม สัดส่วน 25% และอาคารสำนักงาน หรือโครงการ ที่อยู่อาศัยรูปแบบอื่นๆ 5%

รูปแบบการลงทุน อาจหาผู้ร่วมทุนที่เป็นทั้งบุคคลทั่วไปหรือผู้ประกอบการเพื่อก่อตั้งบริษัทร่วมทุนในการพัฒนาโครงการในไทย นอกจากนี้บริษัทจีน หรือว่ารัฐวิสาหกิจของประเทศจีนที่มีศักยภาพในการลงทุนพัฒนาโครงการโครงสร้าง พื้นฐานเอง ก็มีความสนใจที่จะเข้ามามี ส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการระบบคมนาคมต่างๆ เช่นกันกลุ่มนี้เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องการที่จะดำเนินธุรกิจในไทยระยะยาว ไม่ใช่ลงทุนแค่ 1-2 โครงการเท่านั้น

ยึดทำเลเมืองท่องเที่ยว

สำหรับโครงการที่อยู่อาศัย นักลงทุนจีนยังคงสนใจแต่เฉพาะทำเลที่มีคนจีน เดินทางมาท่องเที่ยวหรืออยู่อาศัยเป็นสำคัญ เช่น พระราม 9 รัชดาภิเษก พระราม 3 สุขุมวิท พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต ศรีราชา จะเห็นได้ว่าทำเลเหล่านี้ เป็นทำเลที่มีคนจีน เดินทางเข้ามาในพื้นที่อยู่แล้วเป็นประจำ ทั้งการท่องเที่ยวและทำงาน

ส่วนโครงการโรงแรม เน้นทำเลที่ ไม่ได้แตกต่างโครงการที่อยู่อาศัย เพราะนักลงทุนจีนยังคงเน้นในทำเลที่มีคนจีน เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นประจำ เพราะมองว่า ต้องการลงทุนพัฒนาโรงแรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาในไทยปีละเกือบ 10 ล้านคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นทุกปีๆ ทำเลยอดนิยม เช่น กรุงเทพฯ แถวรัชดาภิเษก พระราม 3 พระราม 9 บางนา ต่างจังหวัด เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของคนจีน เช่น พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต

เล็งลงทุนโครงการ"อีอีซี"

นายสุรเชษฐ กล่าวว่าการลงทุนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นโปรเจค ที่นักลงทุนหลายสัญชาติสนใจ เช่นเดียวกับนักลงทุนจีน ที่เริ่มเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น ช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากปัจจัยการแข่งขันลงทุนนอกประเทศในประเทศอื่นๆ รวมทั้งการแข่งขันภายในประเทศจีนที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับ การแข่งขันในไทยหรืออาเซียน ที่มีโอกาสการเติบโตสูงกว่า

คาดนักท่องเที่ยวจีนแตะ10ล้าน

นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่าแอตต้า คาดการณ์นักท่องเที่ยวจีนปีนี้จะสูงถึง 9.7 ล้านคน ในช่วง 2-3 ปียังมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้อีกปีละ 5 แสน-1 ล้านคน จากพื้นฐานเศรษฐกิจจีนยังเติบโตต่อเนื่อง หากเป็นการประเมินของแอตต้าเชื่อว่า ในปี 2561 นักท่องเที่ยวจีนมีโอกาสเพิ่มถึง 10.5-10.7 ล้านคน และปี 2562 เพิ่มเป็น 11.5 ล้านคน โดยอีก 2-3 ปีมีโอกาสเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเทียบกับทุกตลาดต่างชาติอยู่ที่ 28-30% ได้จากปัจจุบันครองส่วนแบ่ง ราว 1 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด

จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้แนวโน้มการลงทุนของจีนในไทยจะเติบโตตามไปด้วย เดิมเป็นการลงทุนซื้ออพาร์ตเมนต์ที่ไม่ได้ จดทะเบียนถูกต้อง จากกลุ่มทุนขนาดกลาง และเล็ก  ปัจจุบันเห็นการเปลี่ยนแปลงเป็นการเข้ามาอย่างถูกต้องและเป็นกลุ่มทุน ขนาดใหญ่มากขึ้น หลังจากที่กลุ่มทุนขนาดใหญ่ เริ่มเข้าไปในตลาดยุโรปและอเมริกาใน รูปแบบซื้อกิจการเชนโรงแรมขนาดใหญ่ ขณะนี้เข้าสู่ยุคกลับมาบุกตลาดอาเซียนมากขึ้น เพื่อรองรับการท่องเที่ยวจีนที่เติบโต

ร่วมทุนขาย-เช่าคอนโดให้คนจีน

นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD กล่าวว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีทุนจีนเข้ามาร่วมลงทุนกับนักธุรกิจไทยจำนวนมาก เพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโด ถือว่าได้รับความนิยมจาก คนจีนทั้งซื้อเองและปล่อยเช่าให้กับคนจีนที่มาท่องเที่ยว

โดยพื้นที่ได้รับความนิยม คือ บริเวณถนนเจ็ดยอด และถนนสันติธรรม เนื่องจากห่างจากตัวเมืองไม่มาก ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยว อย่างถนนนิมมานเหมินทร์ประมาณ 1-2 กิโลเมตร และยังมีพื้นที่พอให้ก่อสร้างอาคาร ทำให้มีโครงการประเภทคอนโดมิเนียมเกิดขึ้น เยอะมาก

"กรีนแลนด์ กรุ๊ป"เตรียมบุกไทย

ด้านนายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ หนึ่งในผู้ชักนำกลุ่มทุนจีนเข้ามาลงทุนในไทย กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้มีกลุ่มทุนจากจีน เข้ามาซื้อธุรกิจอสังหาฯในไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 ทำเลทองคือกรุงเทพฯ พัทยา จ.ชลบุรี และจ.เชียงใหม่ อสังหาฯ ที่เข้ามาซื้อส่วนใหญ่เป็นคอนโด มีทั้งซื้ออาคารยกแท่งและร่วมทุนกับคนไทย

"กลุ่มทุนจีนที่เข้ามาซื้ออสังหาฯในไทยเพราะต้องการให้เป็นบ้านหลังที่สองสำหรับคนจีนที่มีเงินและต้องการมาเที่ยวเมืองไทยคนจีนกลุ่มนี้ถือว่าเป็นผู้ที่มีเงิน และต้องการความสะดวกสบายเมื่อเข้ามาอยู่เมืองไทย"

นายพินิจ กล่าวว่า กลุ่มที่น่าสนใจและกำลังเข้ามาลงทุนในธุรกิจอสังหาฯมากในไทยตอนนี้คือ กรีนแลนด์ กรุ๊ป ซึ่งกลุ่มนี้เป็นหนึ่งในรัฐวิสาหกิจที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ และเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรชั้นนำของจีน ขณะนี้ได้เข้ามาขอร่วมลงทุนกับกลุ่มอสังหาฯรายใหญ่ของไทย โดยอยู่ระหว่างการเจรจาคาดว่าจะสำเร็จเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามกลุ่มนี้ยังมีแผนที่จะร่วมทุนกับอีกหลายรายในไทย

ขณะที่แหล่งข่าวจากกลุ่มทุนจีนรายหนึ่ง กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มทุนจีนหลายราย ได้เข้ามาเจรจาหาซื้ออาคารสูงในไทยทั้งในส่วนของอาคารพาณิชย์และคอนโด เพื่อจะเข้ามา ลงทุนสร้างโรงแรมในไทย รองรับนักท่องเที่ยว จากจีน เนื่องจากเห็นว่าช่วงที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากเข้ามาเที่ยว เมืองไทย หากนักธุรกิจจีนส่วนหนึ่งสามารถสร้างโรงแรมที่พักได้เอง น่าจะรองรับ การท่องเที่ยวของจีนได้

"นักธุรกิจจีนจำนวนมากเลยให้ความสนใจ เข้ามาหาซื้ออาคารสูงในไทย มีทั้งร่วมทุน และลงทุนเอง ส่วนใหญ่เน้นเมืองท่องเที่ยว"

 
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ