แมกโนเลียปั้นแฟลกชิพ ฟอเรสเทียส์ 9 หมื่นล้าน
Loading

แมกโนเลียปั้นแฟลกชิพ ฟอเรสเทียส์ 9 หมื่นล้าน

วันที่ : 8 ธันวาคม 2560
แมกโนเลียปั้นแฟลกชิพ ฟอเรสเทียส์ 9 หมื่นล้าน

ปัจจุบันนวัตกรรมและเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมเชื่อมโยง ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน และชุมชน อยู่ในสถานที่เดียวกัน แนวทางทางการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์จึงเป็นรูปแบบผสมผสาน (มิกซ์ยูส) ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคนี้

วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลอปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เปิดเผยว่า ได้เปิดตัวแผนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บนที่ดินย่านบางนา-ตราด กม.7  พื้นที่ 300 ไร่ ภายใต้โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Forestial) รูปแบบมิกซ์ยูส มูลค่า 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นโปรเจคแฟลกชิพ รูปแบบการใช้ชีวิตเข้ากับระบบนิเวศทางธรรมชาติ โครงการเป็นรูปแบบ "มิกซ์ยูส ไลฟ์สไตล์"ประกอบด้วย ที่อยู่อาศัย พื้นที่รีเทล อาคารและสำนักงาน ศูนย์สุขภาพ อาคารนวัตกรรมแห่งอนาคต ผืนป่าสันทนาการ พื้นที่กิจกรรมสำหรับชุมชน ศูนย์เรียนรู้ และระบบนิเวศธรรมชาติขนาดใหญ่ โดยจะเริ่มก่อสร้าง ปีหน้า แล้วเสร็จปี 2565 "โครงการฟอเรสเทียส์ ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ สังคมสูงวัย ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย รวมทั้งเป็นโปรเจค แฟลกชิพครั้งแรกของโลก ที่ธรรมชาติและสังคมอยู่รวมกัน"

กิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่าการพัฒนาโครงการฟอเรสเทียส์ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกมาร่วมดีไซน์และสร้างสรรค์ โครงการอสังหาฯ ภายใต้คอนเซปต์ "Imagine Happiness" ที่ให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่มีความสุขอย่างยั่งยืน

โมเดลโครงการมีทั้ง ที่อยู่อาศัย รีเทล อาคารและสำนักงาน ศูนย์สุขภาพ อาคารนวัตกรรมแห่งอนาคต ผืนป่าสันทนาการ พื้นที่กิจกรรมสำหรับชุมชน ศูนย์เรียนรู้ และนับเป็นครั้งแรกของการสร้างธรรมชาติระบบนิเวศของผืนป่าขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย  โครงการประกอบด้วย 4 หมวดใหญ่คือ 50 Shades of Nature  ใช้ชีวิตท่ามกลางระบบนิเวศธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่รวมพืชพันธุ์กว่า 38 สายพันธุ์ และสัตว์กว่า 123 สายพันธุ์ บนพื้นที่เดิมให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคน รวมทั้งพื้นที่ป่าธรรมชาติ 4 ระดับ ได้แก่ ป่าทึบ ป่าเพื่อผู้อยู่อาศัย ป่าแอดเวนเจอร์และศูนย์รวมกิจกรรม และพาวิลเลี่ยนสไตล์ธรรมชาติ หมวด Connecting 4 Generations การดีไซน์พื้นที่ให้กับครอบครัวใช้ชีวิต ร่วมกัน ครอบคลุมถึง 4 เจนเนอเรชั่น ภายในพื้นที่ที่อยู่อาศัยเดียวกันหรือดีไซน์ความเป็นส่วนตัวได้ด้วยรูปแบบที่อยู่อาศัยเฉพาะบุคคล แต่ยังสามารถไปมาหาสู่เพื่อพบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน หมวด Community of Dreams  พื้นที่และสาธารณูปโภคที่ให้ทุกคนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน บนพื้นที่ส่วนกลางทางธรรมชาติและเทคโนโลยี และ หมวด Sustainnovation for Well-being  เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน การสร้างแนวคิดใหม่ของการใช้ชีวิต โดยการนำเทคโนโลยีมาออกแบบไปกับธรรมชาติ อาทิ การเลือกใช้วัสดุที่เอื้อต่อการประหยัดพลังงานหรือปลอดมลพิษ นวัตกรรมพลังงานสะอาดหรือพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น  "เราจับมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มาร่วมสร้างสรรค์ประสบการณ์การอยู่อาศัยภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุข นับเป็นโมเดลแรกของโลก"

สำหรับพันธมิตร ได้แก่ Foster + Partners  ที่ปรึกษาการออกแบบ วางผังและงานสถาปัตยกรรม EEC Engineering Network ร่วมวิจัยและพัฒนางานระบบอาคาร ที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำหน้าเข้ามาสร้าง ต้นแบบของงานระบบอาคารที่เน้น ความยั่งยืนและความรับผิดชอบ ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของโครงการ Atelier Ten  ร่วมทำวิจัย ศึกษาและวางแผนการป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งรวมไปถึงระบบนิเวศให้มีความสมดุลและยั่งยืน โดยการใช้นวัตกรรมต่างๆ รวมถึงเป็นผู้ตรวจสอบและควบคุมการออกแบบและการก่อสร้างเพื่อเป็นต้นแบบของการพัฒนาโครงการชั้นนำของโลก ส่วน ITEC Entertainment เป็นผู้สร้างสรรค์ประสบการณ์และสันทนาการที่จะเกิดขึ้นภายในโครงการ เพื่อทำให้ผู้อยู่อาศัยพบกับประสบการณ์พิเศษ Six Senses  ร่วมบริหารและให้บริการ ด้านการบริหารโรงแรมและ ที่อยู่อาศัย (Hospitality and Residential) ที่ยึดหลักการอยู่อาศัยร่วมกับธรรมชาติ สุขภาพ และความยั่งยืน

ในโครงการฟอเรสเทียส์ รูปแบบมิกซ์ยูส ประกอบไปด้วยพื้นที่ที่อยู่อาศัย เช่น วิสซ์ดอม คอนโด ,เรสซิเดนซ์ สำหรับกลุ่มสูงวัย "ดิ แอสเพน ทรี", เมดิคอล คอมเพล็กซ์ นอกจากนี้ยังมีโรงแรมบูติค 6 ดาว, ทาวน์ เซ็นเตอร์ พื้นที่ไลฟ์สไตล์และร้านอาหาร, อาคารสำนักงาน, คอมมูนิตี้เซ็นเตอร์

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ