คลอลิเออร์สฯชี้ปี61คอนโดฯยังฮอตเตือนระวังลูกค้าต่างชาติซื้อแล้วไม่โอน
คลอลิเออร์สฯ เผยปี 61 ยุคตลาดคอนโดฯ ทำเลแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ชมพูแนวโน้มเติบโตสูง ส่วนรัชโยธิน-ม.เกษตรฯ ฮอตคาดมีคอนโดฯ เปิดใหม่อีกกว่า 3,000 ยูนิต เตือนระวังลูกค้าต่างชาติไม่โอน
นายสุรเชรษฐ์ กองชีพ ผู้อำนวยการ บริษัท คลอลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปี61 คอนโดเนียม ยังคงได้รับความนิยม โดยทำเลแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเส้นทางใหม่ๆมีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือและสายสีชมพู นอกจากนี้ทำเลในช่วงรัชโยธิน-ม.เกษตร ศาสตร์ คาดว่าจะเป็นอีกทำเลที่ผู้ประกอบ การเข้าไปพัฒนาจำนวนมากกว่า 3,000 ยูนิตนับจากนี้ ระดับราคาเฉลี่ยประมาณ 1.3 แสนบาท/ตร.ม. ส่วนพื้นที่กรุงเทพชั้นในช่วงอโศก-ทองหล่อ-เอกมัย คาดว่าจะมีโครงการคอนโดเปิดใหม่ไม่น้อยกว่า 10 โครงการ และในช่วง 1-2 ปีจากนี้ระดับราคาขายเฉลี่ยที่จะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2 แสนบาท/ตร.ม.
ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมามีคอนโดฯ เปิดใหม่ใน กทม. 528,499 ยูนิต และสามารถขายหรือมียอดจองซื้อไปกว่า 65% สะท้อนให้เห็นว่าแม้ภาวะเศรษฐกิจจะยังไม่ดี แต่เป็นโครงการที่อยู่ในทำเลดี หรือมีรูปแบบโครงการที่น่าสนใจก็ได้รับการ ตอบรับจากลูกค้าดี แม้ส่วนหนึ่งของผู้ซื้อ จะเป็นนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อเก็งกำไรหรือลงทุนในระยะยาวก็ตาม แต่ก็แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อยังมีความคาดหวังว่าราคาขาย หรือผลตอบแทนที่พวกเขาจะได้รับในอนาคต นั้นยังน่าสนใจอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่ตาม แนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้าง ทั้งเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว และสีน้ำเงิน
นายสุรเชรษฐ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้ประกอบการควรระวังคือ จำนวนคอนโดฯ ที่ยังเหลือขายในตลาดที่มากกว่า 30,000 ยูนิต และอาจจะมากถึง 40,000 ยูนิต เมื่อรวมยูนิตของนักลงทุนหรือคนที่พร้อมจะขายต่อ ดังนั้น การจะเปิดขายโครงการใหม่และพยายามสร้างความน่าสนใจหรือว่าต้องการแค่อัตราการขาย ยอดจองในระยะแรก เพื่อสร้างกระแสอาจจะกลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้ผู้ประกอบการเจ็บตัวได้ในอนาคต เนื่องจากผู้ซื้อส่วนหนึ่งที่ต้องการลงทุนระยะสั้นอาจจะไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์แบบที่เกิดขึ้นในหลายโครงการที่ยอดขาย เต็ม 100% แต่พอถึงวันโอนกรรมสิทธิ์กลับมีห้องเหลือขายมากกว่า 20-30% หรือมากกว่านั้น
นอกจากนี้ การที่ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มขยายกลุ่มผู้ซื้อไปยังตลาดต่างประเทศเพื่อเข้ามาเติมในส่วนที่กำลังซื้อคนไทยอาจจะมีไม่พอ เช่น ในกลุ่มโครงการระดับบนขึ้นไป เป็นต้น รวมไปถึงผู้ประกอบการที่ต้องการขายแบบยกล็อตให้กับชาวต่างชาติเพื่อจะได้เอาอัตราการขายสูงๆ มาสร้างกระแสความน่าสนใจ ให้กับโครงการ แต่สุดท้ายแล้วบางโครง การที่ขายให้กับชาวต่างชาติไปก็ประสบปัญหาแบบเดียวกันคือชาวต่างชาติที่จองซื้อไปไม่ยอมมาโอนกรรมสิทธิ์ เพราะติดปัญหาเรื่องการขอสินเชื่อธนาคาร การนำเงินออกนอกประเทศ