สิงห์เอสเตทลุ้นโต50% เล็งซื้อโรงแรมตปท.
สิงห์เอสเตทชี้ปี2561 เริ่มรับรู้รายได้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดันรายได้โต 50% เจรจาเข้าซื้อกิจการโรงแรมในเอเชีย1 แห่งขณะที่ บล.หยวนต้าเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นอสังหาฯหลังเห็นสัญญาณฟื้นตัวในปีหน้า
นาย เมธี วินิชบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)หรือS กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 ยังมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับบน ยังมี ความต้องการสูงขึ้น สังเกตได้จากราคาของโครงการและราคาที่ดินในพื้นที่ได้รับยอดนิยม ราคายังปรับตัว สูงขึ้นได้
"ทิศทางของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมี่ยม ยังมีแนวโน้มดีมากจากความต้องการเพิ่มขึ้น ส่วน แนวโน้มธุรกิจโรงแรมยังมีการเติบโตของนักท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ดี ทำให้เชื่อว่าทิศทางผลการดำเนินงาน ในปี 2561 ยังขยายตัวได้"
ทั้งนี้ ทิศทางผลประกอบการปี2561 มองว่า รายได้จะขยายตัวจากปีนี้ประมาณ 50 % จากปีนี้ที่ คาดว่าจะมีรายได้ที่ 4,000 ล้านบาท โดยจะมาจากการเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เช่น โครงการ THE ESSE Asoke ที่มีมูลค่าโครงการ 4.9 พันล้านบาท มียอดขายพรีเซลแล้ว 75 % ของโครงการ คาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 รวมถึง รายได้จากการเพิ่มจำนวนห้องพักโรงแรมของบริษัท และการรับรู้รายได้จากอาคารสำนักงานให้เช่า นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการใหม่ ในปีหน้า 2 โครงการ มูลค่ารวม 5-7 พันล้านบาท
อย่างไรตามบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อโรงแรม 1 แห่งในพื้นที่เอเชียแปซิฟิก โดยอยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะสามารถสรุปความชัดเจนได้ภายในปี 2561 บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ประเมินว่า บริษัทได้ปรับเพิ่ม น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ขึ้นเป็นมากกว่าตลาด จากเดิมเท่ากับตลาดเนื่องจาก กำไรไตรมาสที่ 3 ทรงตัวหลัง เร่งระบายสต็อกเก่า มาร์จิ้นต่ำ ซึ่งแนวโน้มไตรมาสที่ 4 ฟื้นตัวเด่นและทำระดับสูงสุดปีนี้ได้ โดยมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้รองรับยอดโอนแล้วถึง 93% ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีหน้าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีตามกำลังซื้อและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัว คาดจำนวนเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้น 15-20% ทำให้ยอดพรีเซลเติบโตได้ 10-15%
สิ่งหนึ่งที่เห็นสัญญาณบวก คือการกลับมาเร่งปิดโครงการใหม่มากขึ้น 2 เดือนสุดท้าย ทั้งในส่วน ของตลาดคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยว สะท้อนความเชื่อมั่นต่ออุปสงค์ ที่ดี อีกทั้งสถาบันการเงินเริ่มหัน กลับมาเร่งปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ การพิจารณา สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเชื่อว่ายอดพรีเซลปี2561 จะเติบโต10-15% เทียบกับปีนี้ที่ทำได้ 8-10% และ บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้น15-20% ปีหน้าจากปีนี้ เพิ่มขึ้น10-15%
ประเด็นเสี่ยงที่น่าจับตามอง ปี 2561 คือยอดขายที่รอการโอนรองรับ ประมาณการรายได้ปี 2561 เพียง 30% ทำให้ผู้ประกอบการ ส่วนใหญ่เริ่มหันมาทำตลาดแนวราบมากขึ้น