SPALIจุดพลุปีนี้ ยอดขายจ่อทะลุ เกิน2.7หมื่นล้าน
SPALI คาดยอดขายปีนี้ทะลุเกินเป้าที่ตั้งไว้ 27,000 ล้านบาท หลัง 9 เดือนแรกกวาดยอดขายแล้ว 25,120 ล้านบาท โต 44% รับแรงหนุนเปิดคอนโดมิเนียมใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 20,350 ล้านบาท ได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขาย (Presale) รวมในปีนี้ น่าจะเติบโตทะลุเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ 27,000 ล้านบาท หลังในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย.) บริษัทมียอดขายแล้ว 25,120 ล้านบาท เติบโต 44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 17,486 ล้านบาท
โดยยอดขายที่เติบโตขึ้นเป็นผลมาจากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในปีนี้ได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งในปีนี้บริษัทได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่รวมจำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 20,350 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการ ศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร (Supalai Premier Charoen Nakhon) บนพื้นที่ 2 ไร่ จำนวน 584 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,980 ล้านบาท ปัจจุบันปิดการขาย 100%
2.โครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย (Supalai Loft Yaek Fai Chai Station) บนพื้นที่ 3 ไร่ จำนวน 370 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,170 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 70%
3.โครงการ ศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู (Supalai Park Talat Phlu Station) บนพื้นที่ 5 ไร่ จำนวน 788 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 25%
4.โครงการ ศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญ (Supalai Veranda Phasi Charoen Station) บนพื้นที่ 11 ไร่ จำนวน 1,810 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,400 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 60% และ 5.โครงการ ศุภาลัย โอเรียลทัล สุขุมวิท 39 (Supalai Oriental Sukhumvit 39) บนพื้นที่ 10 ไร่ จำนวน 1,054 ยูนิต มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวมจำนวน 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 31,940 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 5 โครงการ ส่วนที่เหลือจะเป็นโครงการแนวราบ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทได้เปิดขายโครงการใหม่แล้ว จำนวน 17-18 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 30,000 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 5 โครงการ ส่วนที่เหลือเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด
นายไตรเตชะ กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาส 4/2560 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก จำนวน 3-4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,000 ล้านบาท ส่งผลให้ในปีนี้บริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่รวม จำนวน 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 31,940 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 9 โครงการ และโครงการในต่างจังหวัด จำนวน 11 โครงการ
“เรามองว่าแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ยังเติบโตอยู่ และน่าจะเติบโตประมาณ 5-10% จากปีก่อน ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็ยังเติบโตอยู่ เห็นได้จากยอดขายของผู้ประกอบการ 10 รายใหญ่ที่มีอัตราการเติบโตเกินกว่า 10%” นายไตรเตชะ กล่าว
ส่วนงบซื้อที่ดินในปีนี้ เบื้องต้นบริษัทคาดจะใช้งบซื้อที่ดินมากกว่าที่ตั้งไว้ที่ 8,000 ล้านบาท เนื่องจากล่าสุดบริษัทเป็นผู้ชนะการประมูลซื้อที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย มูลค่าที่ดินรวมกว่า 4,600 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีที่ดินเปล่าสำหรับรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ได้ประมาณ 1 ปีครึ่ง ซึ่งจะพัฒนาโครงการได้ประมาณ 30 โครงการต่อปี
สำหรับที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย เนื้อที่ 7 ไร่ 3 งาน 82 ตารางวา บนถนนสาทร ติดถนนสวนพลูที่บริษัทเป็นผู้ชนะการประมูลซื้อด้วยมูลค่าที่ดินรวมกว่า 4,600 ล้านบาท หรือคิดเป็นตารางวาละ 1.45 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการ คาดว่าจะสามารถสรุปและได้เห็นความชัดเจนในช่วงปลายปีนี้
นายไตรเตชะ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะเริ่มเปิดตัวโครงการได้ในช่วงปลายปี 2561 โดยบริษัทเตรียมจะพัฒนาที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็น Landmark ใหม่ในย่านถนนสาทร สีลม ซึ่งจะประกอบด้วย อาคารชุดพักอาศัยและอาคารสำนักงานให้เช่า และในเบื้องต้นคาดว่าจะมีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 17,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการพัฒนาโครงการทั้งหมดประมาณ 4 ปี