แสนสิริ รุกอสังหาอยุธยาจับลูกค้า ท้องถิ่น-นิคมฯ
"แสนสิริ"แตกแบรนด์ใหม่ รุกโครงการแนวราบระดับราคา 1-3 ล้านบาท ประเดิมแห่งแรกอยุธยา ชี้เป็นศูนย์กลางเดินทางเชื่อมเหนืออีสาน แหล่งท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม ดันความต้องการซื้อสูง
นางสาววิลาสิณี เดชอมรธัญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริเปิดแบรนด์ใหม่สำหรับโครงการ แนวราบ "อณาสิริ" เจาะตลาดระดับ ราคา 1-3 ล้านบาท
โดยเตรียมเปิดโครงการแรก "อณาสิริ อยุธยา" มูลค่า 1,000 ล้านบาท จำนวน3 18 ยูนิต ซึ่งเป็นครั้งแรก ในการพัฒนาโครงการโลว์ไรส์แบบ มิกซ์โปรดักส์ รวมบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ ชูจุดเด่นออกแบบรูปแบบ มินิมอล ลอฟท์สอดแทรกภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การใช้สีอิฐ ราคาจำหน่าย1.89-5 ล้านบาท เปิดขายวันที่ 25-26พ.ย.นี้ "เป็นการพัฒนาทำเลอยุธยาครั้งแรก เพราะมีศักภาพสูง เป็นศูนย์กลางการเดินทางไปยังภาคเหนือและอีสาน เปรียบดั่งบ้านหลังที่ 2 ของคนกรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีผู้คนย้ายเข้ามาจำนวนมาก ดีมานด์หลักคือคนในท้องถิ่น หน่วยงานราชการ แรงงานทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ย้ายมาทำงานในนิคมอุตสาหกรรม ที่ต้องการที่อยู่อาศัยเพื่ออยู่อาศัยเอง และปล่อยเช่า"
สำหรับซัพพลายในทำเลอยุธยา ส่วนใหญ่เน้นเปิดโครงการทาวน์เฮาส์ รวม 3,072 ยูนิต คิดเป็น 55% ของตลาดทั้งหมด รองลงมาคือบ้านเดี่ยว 2,249 ยูนิต คิดเป็น 40% และคอนโด 294 ยูนิต คิดเป็น 5% ตลาดที่ได้รับความนิยม มากที่สุดคือ ทาวน์เฮาส์ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยโซนนิคมอุตสาหกรรมได้รับความนิยมสูงสุด อัตราการดูดซับเฉลี่ย 5 ยูนิต/เดือน/โครงการ ขณะที่บ้านเดี่ยวราคาที่ได้รับความนิยมคือ 3-4.99 ล้านบาท ในโซนอยุธยา-บ้านแพรก อัตราตอบรับเฉลี่ย 3 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ
ส่วนราคาที่ดินของอยุธยา โซนที่ราคาสูงที่สุดอยู่ที่ โซนนิคมอุตสาหกรรม ถนนโรจนะ ถนนพหลโยธินใน อ.บางปะอิน 2-5 หมื่นบาทต่อตารางวา รองลงมาคือ โซนอยุธยา-บ้านแพรก ถนนอู่ทอง ถนนนเรศวร 3-4 หมื่นบาท และโซนลาดบัวหลวง-ผักไห่ ถนน ศรีเสนา 1.5-2.5 หมื่นบาท
นางสาววิลาสิณี กล่าวว่า โครงการแนวราบมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และซื้อเพื่ออยู่อาศัยที่สูง ส่งผลให้ปีนี้ยอดขายแนวราบของแสนสิริ 10 เดือน 1.13 หมื่นล้านบาท เติบโตเกือบ 30% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และคิดเป็น 75% จากเป้าหมายยอดขายโครงการแนวราบปีนี้ 1.5 หมื่นล้านบาท