เพซขายตึกมหานคร แสนสิริทุ่มหมื่นล.ซื้อพ่วงโครงการนิมิตร บอร์ดบริษัทสั่งเพิ่มทุนแก้วิกฤตหนี้ท่วม
เพซเจ้าของตึกมหานครหาเงินก้อนยักษ์ตัด 53 ห้องชุด-โครงการนิมิตรให้แสนสิริ คาดใช้งบหมื่นล้าน
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกความเข้าใจขายโครงการนิมิตรหลังสวนทั้งโครงการ และห้องชุดในโครงการมหานคร จำนวน 53 ยูนิต ให้กับบริษัท แสนสิริ (SIRI) โดยจะเข้าตรวจสอบทรัพย์สินที่ซื้อขายภายใน 60 วัน คาดว่าจะได้รับเงินจากการเพิ่มทุนเข้ามาหมื่นล้านบาทไม่รวมขายโครงการ
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 3,758 ล้านบาท เป็น 1.67 หมื่นล้านบาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1.3 หมื่นล้านหุ้น ราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมแถมใบสำคัญแสดงสิทธิและขายให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง (พีพี)
"เงินที่ได้จะนำไปชำระคืนหนี้เงินกู้ 2,000 ล้านบาท หนี้หุ้นกู้ 1,500 ล้านบาท จะทำให้หนี้สินต่อทุนลดลงเหลือ 1.5 เท่า ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลงปีละ 500 ล้านบาท และถือเป็นการปรับโครงสร้างทุนครั้งใหญ่" นายสรพจน์ กล่าว
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส วิเคราะห์ว่า แสนสิริจะใช้เงิน 1 หมื่นล้านบาท ในการเข้าซื้อโครงการนิมิตร มูลค่า 8,000 ล้านบาท ขายแล้ว 90% ส่วนห้องชุดโครงการมหานคร 53 ยูนิต มูลค่า 3,800 ล้านบาท แสนสิริจะรับรู้รายได้ทันที และเพิ่มมูลค่าสินค้าในมือจากสิ้นเดือน ต.ค. 2560 อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท
นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะหนึ่งในธนาคารผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินของเพซ กล่าวว่า ธนาคารเห็นด้วยกับแผนปรับสถานะการเงินของเพซในครั้งนี้ และยินดีสนับสนุนในอนาคต
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ กล่าวว่า บริษัทสนใจซื้อสินทรัพย์ของกลุ่มเพซ เพราะเป็นอสังหาฯ ระดับเดียวกับที่ทำอยู่ นอกจากนี้ใช้งบ 2,800 ล้านบาท เข้าไปถือหุ้นใน 6 ธุรกิจสตาร์ทอัพ เช่น สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล, วันไนท์, โฮสต์ เมเกอร์ ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับโลก เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิม