ดัน ยูซิตี้ คุมอสังหาฯเพิ่มทุนลุย รถไฟฟ้า
"บีทีเอส"จัดทัพใหม่ดัน"ยูซิตี้" คุมธุรกิจอสังหาฯเบ็ดเสร็จ พร้อมโอนพอร์ตสินทรัพย์ให้หมื่นล้าน เตรียมนำเงินลงทุนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และชมพู 2 บริษัทลูก "วีจีไอ-ยูซิตี้" เพิ่มทุนขายพีพี ทั้งในและต่างประเทศ ขณะ "วีจีไอ" แจงรายได้ไตรมาส 2 โต 24% จากสื่อโฆษณารูปแบบใหม่
บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) หรือ BTS ปรับทัพครั้งใหญ่ พร้อมโอนสินทรัพย์กลุ่มอสังหาริมทรัพย์กว่าหมื่นล้านบาท ให้กับบริษัทยูซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U เพื่อเป็นแกนนำในการผลักดันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในระยะต่อไป
นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่า การโอนสินทรัพย์ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ครั้งนี้ เนื่องจากต้องการจัดกลุ่ม และแยกการดำเนินธุรกิจให้มีความชัดเจนจากปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มบีทีเอสมีเป้าหมายที่จะให้บริษัทยูซิตี้ เป็น ผู้นำธุรกิจอสังหาฯ และบีทีเอสจะคงสัดส่วนถือหุ้น บริษัทยูซิตี้ 35%
"ปรับโครงสร้างธุรกิจอสังหาฯไม่ได้เตรียมไปซื้อกิจการไปลงทุนอะไรใหม่ๆ สาเหตุสำคัญที่มี การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างมาจากในกลุ่มที่ต้องการให้ธุรกิจมีความชัดเจนมากกว่า"
นอกจากนี้ การจัดการสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์แต่เดิม คือบริษัท ธนายง จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาฯ ทำให้มีพอร์ตสินทรัพย์ที่ดิน และอสังหาฯ จึงทำรายการโอนขายให้กับบริษัทยู ซิตี้ ทั้งหมดมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท
สำหรับเงินที่ได้รับมาเพื่อเตรียมรองรับการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู ซึ่งบริษัทบีทีเอสจะไม่มีสินทรัพย์ประเภทอสังหาฯ แต่จะมีฐานะเป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านรถไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันบริษัทธุรกิจหลักของกลุ่มมี 4 ประเภท คือ ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจเดินรถไฟฟ้า และธุรกิจบัตรแรบบิท
"ยูซิตี้"เพิ่มทุนมูลค่า2พันล้าน
โดยวานนี้(31ต.ค.) บริษัทยูซิตี้ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน 8.5 แสนล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 8.4 แสนล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุน 2.8 แสนล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุน 5.7 แสนล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
โดยหุ้นเพิ่มทุน 2.8 แสนล้านหุ้น ได้แบ่งจัดสรรเพื่อรองรับการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบริษัท (วอร์แรนท์) รุ่นที่ 3 (U-W3) จำนวนไม่เกิน 4.9 หมื่นล้านหุ้น ให้กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทยูนิคอร์น เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด หรือ UE อัตรา1วอร์แรนท์ต่อ1หุ้นเพิ่มทุน
หากได้รับจัดสรรหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุนอัตราจัดสรร 2 หุ้นบุริมสิทธิต่อ 1วอร์แรนท์ ฟรี และรองรับการออกและจัดสรร วอร์แรนท์ รุ่นที่ 4 (U-W4) จำนวนไม่เกิน 2.3 แสนล้านหุ้น อัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนท์ต่อ1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ที่จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นบุริมสิทธิ เพิ่มทุน อัตราจัดสรร 2 หุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุนต่อ 1 วอร์แรนท์ฟรี
ขณะที่หุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุนจำนวน 5.7 แสนล้านหุ้น แบ่งเสนอขายให้กับธนาคารกรุงเทพ จำนวน 2.8 หมื่นล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.031 บาท มูลค่า 897 ล้านบาท, ขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 4.7 แสนล้านหุ้น อัตราจัดสรร 5 หุ้นเดิม หรือหุ้นบุริมสิทธิเดิม ต่อ 4 หุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุน มูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท และให้แก่บริษัท ยูนิคอร์น เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด จำนวน 7 หมื่นล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.031 บาท คิดเป็นมูลค่า 2.1 พันล้านบาท
รับโอนสินทรัพย์อสังหาฯหมื่นล้าน
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท ยูนิคอร์น เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด หรือ UE ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ BTS ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน100%
โดยจะรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดของ UE มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1.29 หมื่นล้านบาท และชำระค่าตอบแทน การรับโอนกิจการให้แก่ UE ด้วยการออกหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุน 7 หมื่นล้านบาท และวอร์แรนท์จำนวน3.5หมื่นล้านหน่วยคิดเป็นมูลค่า 2.1 พันล้านบาท และรับภาระหนี้เงินกู้ทั้งหมดของ UE ที่มีอยู่กับ BTS พร้อมดอกเบี้ย ณ วันที่โอนกิจการ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท
"วีจีไอ"ขายพีพีต้นปีหน้า
ขณะที่บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน)หรือ VGI แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการได้อนุมัติการออกและ จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 340 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท เพื่อขายต่อบุคคลในวงจำกัดตามแบบ มอบอำนาจทั่วไป พร้อมกำหนดกรอบเวลาการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนและการชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนภายใน วันที่ 30 เม.ย. 2561
นอกจากนี้ ได้แต่งตั้ง Placing Agent ซึ่งเป็นสถาบันการเงินระหว่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่จัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ลงทุนในต่างประเทศ และ Underwriter ทำหน้าที่จัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ให้แก่ผู้ลงทุนภายในประเทศ
ขณะที่รายงานกำไรไตรมาส 2 ปี 2560/2561 สิ้นสุด ก.ย.2560 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 202 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 194 ล้านบาท โดยมีรายได้ 978 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5%
ผู้บริหารแจงรายได้โต24%
นายเนลสัน เหลียง รองกรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย กล่าวว่า การที่มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อน สะท้อนจากกลยุทธ์ การรวมสื่อโฆษณานอกบ้านที่ผสมผสาน การให้บริการสื่อโฆษณารูปแบบใหม่ที่สามารถวัดผลได้ผ่าน Synergy จาก Rabbit Group ผลการดำเนินงานใน ทุกกลุ่มธุรกิจมีอัตราการเติบโตโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน (BTS) มีรายได้ปรับตัวดีขึ้น 21% เป็น 576 ล้านบาท
ด้านสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานนั้น ขยายพื้นที่สื่อโฆษณาเร็วกว่าเป้าที่วางไว้ นอกจากนี้ สื่อโฆษณากลางแจ้งผ่านการบริหารงานของ MACO ยังทุบสถิติทำ นิวไฮมีรายได้ 232 ล้านบาท เติบโต 52%
ทั้งนี้ บริษัทได้ประเมินแนวโน้มของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาจนถึงสิ้นปีบัญชีเดือนมี.ค. 2561 คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาจะได้รับอานิสงส์จากยอดจองซื้อสื่อล่วงหน้าเพิ่มขึ้น หลังตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจออกมาดีเกินคาด ประกอบกับการเมืองที่มีเสถียรภาพและความชัดเจนของกำหนดเลือกตั้ง จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำรายได้ที่ 4,000 ล้านบาทตามเป้าหมาย
ส่วนการเคลื่อนไหวราคาหุ้นของ U วานนี้ (31 ต.ค.) ปิดตลาดที่ราคา 0.03 บาทราคาไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ราคาหุ้น VGI ปิดตลาดที่ราคา 6.15 บาท เพิ่มขึ้น 4.24%